Verb to be คือ

คนที่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษใหม่ๆ คงจะสงสัยว่า Verb to be คืออะไร ขนาดเรียนมาตั้งหลายครั้งก็ยังไม่วายที่จะจำกฎเกณฑ์ไม่ค่อยจะได้..Verb to be คือ กริยาช่วยอย่างหนึ่ง, กริยาช่วยเรียกอีกอย่างว่า กริยานุเคราะห์ ส่วนในภาษาอังกฤษ เราเรียกกริยาช่วยว่า Auxiliary Verb หรือ Helping Verb หรือ กริยาพิเศษ (Anomalous Verb) ก็ได้ โดยปกติแล้วกริยาช่วยมีทั้งหมด 24 ตัวแต่ในส่วนที่เป็นกริยาช่วยของ Verb to be จะประกอบไปด้วย is, am, are, was, were เป็นต้น

Verb to be
มีหน้าที่อย่างไรบ้างนั้นเรามาดูกัน

Verb to be คือ Verb ที่ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นๆ ได้ดังต่อไปนี้

1. Verb to be คือ Verb ที่ใช้วางไว้หน้ากริยาตัวที่เติม ing ทำให้ประโยคนั้นเป็น Continuous Tense ซึ่งแปลว่า “กำลัง” ทุกครั้ง เช่น

We are learning English.

(เรากำลังเรียนภาษาอังกฤษ)

He is reading a novel.

(เขากำลังอ่านนวนิยาย)

It is sleeping on the bed.

(มันกำลังนอนอยู่บนเตียง)

2. Verb to be คือ Verb ที่ใช้วางไว้หน้ากริยาช่อง 3 (เฉพาะสกรรมกริยา) ทำให้ประโยคนั้นเป็นกรรมวาจก (Passive Voice) แปลว่า “ถูก” เช่น
John was punished by the teacher yesterday.

(จอห์นถูกทำโทษโดยคุณครูเมื่อวานนี้)

A glass of water of mine is taken away.

(แก้วน้ำของฉันถูกเอาไปเสียแล้ว)

That house was built here last month.

(บ้านหลังนั้นถูกสร้างไว้ที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว)

3. Verb to be คือ Verb ที่ใช้วางไว้หน้ากริยาสภาวมาลา (Infinitive) มีสำเนียงแปลว่า “จะ, จะต้อง” แสดงถึงหน้าที่ที่ต้องกระทำ, แผนการ, การเตรียมการ, คำสั่ง, คำขอร้อง หรือความเป็นไปได้ เช่น

He is to stay here till I come back.
(เขาจะต้องอยู่ที่นี่จนกว่าฉันจะกลับมา)

She is to be paid at the end of this week.

(หล่อนจะต้องได้รับเงิน (ค่าจ้าง) เมื่อปลายสัปดาห์)

Linda is to go home next week.

(ลินดาจะกลับบ้านสัปดาห์หน้า)

4. Verb to be คือ Verb ที่ใช้วางไว้หน้าประโยคคำสั่ง, อวยพร, ที่นำหน้าประโยคด้วย Adjective (คุณศัพท์) ต้องใช้ Be นำหน้าเสมอ เช่น

Be quite. The baby is sleeping.

(เงียบหน่อย ทารกกำลังนอนหลับอยู่)

Be good luck in your examination.

(ขอให้โชคดีในการสอบของคุณ)

5. Verb to be คือ Verb ที่ใช้นำหน้าสำนวน about to + Verb ช่อง 1 ซึ่งแปลว่า “กำลังจะ” แสดงถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ เช่น

They are about to start their journey this week.

(พวกเขากำลังจะออกเดินทางกันสัปดาห์นี้)

Mr. Clinton is about to be here soon.

(มิสเตอร์คลินตันกำลังจะมาถึงที่นี่เร็วๆนี้)

I am about to go to the airport within two hours.

(ฉันกำลังจะไปสนามบินใน 2 ชั่วโมง)

6. Verb to be คือ Verb ที่ใช้ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก (Principal Verb) ในประโยคได้ กรณีนี้ในประโยคนั้นจะไม่มี Verb ตัวอื่นเข้ามาร่วมอยู่กับ Verb to be เช่น

Jean is always a good girl.

(จีนเป็นเด็กหญิงดีเสมอ)

These tourists are from the United States of America.

(นักท่องเที่ยวเหล่านี้มาจากประเทศสหรัฐอเมริกา)

คำแนะนำ : หากว่าเราต้องการจะจำให้ได้ว่า Verb to be คือ อะไร..ก็เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่เราจะท่องจำกฎเกณฑ์ของ Verb to be เอาไว้ให้ขึ้นใจ ไม่เช่นนั้นแล้วก็ต้องพบกับปัญหาเช่นเดิมนั่นคือ เข้าใจว่า Verb to be คือ อะไรเฉพาะตอนที่อ่านเท่านั้น พอไม่ได้อ่านก็ลืม ต้องกลับไปเปิดหนังสือดูอยู่ร่ำไปไม่จบไม่สิ้น แล้วอย่างนี้การเรียนภาษาอังกฤษจะก้าวหน้าได้อย่างไร…จำให้ได้จะได้ต้องเหนื่อยซ้ำแล้วซ้ำเล่าขอให้เราจำไว้เลยนะค่ะ…โชคดีทุกคนค่ะ