จักรวาลอันกว้างใหญ่ไพศาล ดาวน้อยใหญ่กระพริบแสงระยิบระยับอยู่นั้น สุดสายตาของเราออกไปจะมีมนุษย์อาศัยอยู่หรือเปล่า นี่คือคำถามของใครหลาย ๆ คน จากการสำรวจดาวเคราะห์ต่าง ๆ ของยานอวกาศของประเทศมหาอำนาจได้ข้อสรุปว่าดาวเคราะห์ที่น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ก็คือ ดาวอังคาร นายวิลเลี่ยม เฮอร์เชล (William Herschel) นักดาราศาสตร์ สังเกตเห็นบริเวณมืดหลายบริเวณบนดาวอังคาร ตามแนวคิดของเฮอร์เชลที่บริเวณมืดเหล่านี้น่าจะเป็นทะเลที่อาจจะเป็นไปได้ว่ามีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่
     ต่อมานายจิโอวานี เซียพาเรลลี (Giovanni Schaiparelli) ใช้กล้องดูดาวศึกษาพื้นผิวของดาวอังคาร และได้รายงานว่าเห็นร่องน้ำมากมายในบริเวณนั้น อาจเป็นได้ว่าคลองนี้อาจจะเป็นฝีมือของมนุษย์ดาวอังคารขุดขึ้นเพื่อเป็นระบบการขนส่งน้ำบนดาวอังคาร

ยานอวกาศ “ออปพอร์ทูนิตี้”

     จากการเพ่งเล็งจากกล้องดูดาวของนายจิโอวานนี เซียพาเรลลี ก็ได้มีการพิสูจน์ความจริงเกิดขึ้นอีกครั้ง ก็ได้ข้อสรุปแบบไม่ต้องโต้แย้งอีกว่าสิ่งที่นายจิโอวานนี เซียพาเรลลีเห็นเป็นเพียงภาพลวงตา
     เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2003 สหรัฐอเมริกาได้ส่งยานสปิริต (Spirit) เพื่อไปลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร และสามารถลงจอดในวันที่ 4 มกราคม 2004 บริเวณร่องขนาดใหญ่ชื่อ “มาคิมวาลลิส” คาดว่าอาจเกิดจาการกัดเซาะของน้ำเคยมีบนดาวอังคารในอดีตที่ผ่านมา
     บนดาวอังคารมีหิมะและมีน้ำแข็งปกคลุมอยู่ทั่วไป และบางส่วนมีลักษณะคล้ายริ้วคลื่นและร่องรอยการไหลผ่านของน้ำในอดีต เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2004 ยานอวกาศสำรวจดาวอังคารชื่อ ออปพอร์ทูนิตี (Opportunity) ก็ร่อนลงสู่ผิวดาวอังคารบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรของดาวอังคารที่เรียกว่า
“เทอร์รา เมริเดียนิ” และคาดว่าจะสามารถหาร่องรอยของน้ำที่เคยมีอยู่บนดาวอังคารมากยิ่งขึ้น
ดาวอังคารมีหิมะและน้ำแข็งปกคลุมอยู่ทั่วไป

ยานบีเกิล 2

     นอกจากจะค้นหาเฉพาะน้ำแล้วประเทศมหาอำนาจยังสืบเสาะหาสิ่งมีชีวิตที่คาดว่าน่าจะมีอยู่บนดาวอังคารโดยใช้ยานอวกาศชื่อบีเกิล 2 (Beagle 2) ขึ้นไปสำรวจในวันที่ 25 ธันวาคม 2003 โดยที่บีเกิล 2 จะใช้เครื่องวัดก๊าซที่อาจเกิดจากความชื้นของกระบวนการในสิ่งมีชีวิต โดยเครื่องวัดดังกล่าวจะมีความไวสูงกว่าเครื่องวัดที่เคยใช้ในยานไวกิ้งถึงกว่า 100 เท่า เพื่อสำรวจหาสิ่งมีชีวิตบนดาวอังคาร
     ในปี ค.ศ. 1976 ยานไวกิ้งได้ถ่ายภาพดาวอังคารส่งกลับมายังโลก องค์การนาซ่าได้รับข้อมูลภาพกว่า 60,000 ภาพ และหนึ่งในจำนวนภาพทั้งหมดได้มีภาพที่สร้างความแปลกใจสำหรับผู้พบเห็น ภาพนั้นเป็นภาพพื้นผิวดาวอังคารที่เต็มไปด้วยภูเขา และมีวัตถุประหลาดขนาดใหญ่ ดูแล้วคล้ายใบห้าของคนที่นูนขึ้นมาจากพื้นผิวของดาวดังคาร ต่อมาคาร์ลอตโต นักวิจัยชาวอเมริกันได้ทำการวิเคราะห์ข้อมุลภาพถ่ายจากยานไวกิ้งซ้ำอีกครั้ง คาร์ลลอตโต ใช้เทคนิควิเคาระห์แบบแฟรกทัล (Fractal) และพบว่าใบหน้าที่นูนขึ้นมานั้นมีความกว้างถึง 2 กม. ยาว 2.5 กม. ซึ่งมีความสูงจากพื้นผิว 400 เมตร นายคาร์ลลอตโต ได้กล่าวว่าใบหน้านี้ไม่ได้เกิดจากการกัดเซาะของกระแสลมจนสึกกร่อนแล้วเปลี่ยนเป็นรูปใบหน้าอย่างแน่นอน แต่เป็นสิ่งก่อสร้างของอารยธรรมบนโลกอื่นนอกจากภาพใบหน้าก็ยังมีภาพอื่นๆ อีกที่สร้างคำถามให้นักธรณีวิทยาว่ามันคือภาพอะไรกันแน่

สฟิงซ์

     ภาพถ่ายต่าง ๆ ที่ยาวนไวกิ้งถ่ายส่งกลับมายังโลกและนายคาร์ลลอตโต ได้กล่าวว่าภาพเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากธรรมชาติแน่นอน นอกจากสิ่งปลูกสร้างที่นักธรณีวิทยาได้คาดเดาเอาไว้ก็ยังมีภาพถ่ายของการวางท่อระบบต่างๆ อีกหลายภาพที่ไวกิ้งได้ถ่ายมาก็เป็นภาพที่สร้างคำถามให้กับนักธรณีวิทยาและนักอื่นๆ ได้คาดเดากันต่างๆ นานาว่ามันคือภาพอะไรกันแน่ หรือว่ามีสิ่งมีชีวิตอยู่จริงบนดาวดวงนี้แล้วไหนล่ะตัวตนของ “มนุษย์ที่ว่า” ยานไวกิ้งได้ ถ่ายได้เป็นภาพพื้นผิวดาวอังคารที่มีกลุ่มของภูเขาหลายลูก สองลูกมีรูปทรงคล้ายพีระมิด ห่างออกไปจากจุดบริเวณนั้นไม่ไกลมากนัก ก็ปรากฏรูปภาพภูเขาที่เหมือนใบหน้าคนเห็นดวงตามีปาก และจมูก ภาพเหล่านี้นักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมุติฐานว่ามันอาจจะเป็นสิ่งก่อสร้างที่คล้ายคลึงกับใบหน้าสฟิงซ์หน้ามหาพีระมิดแห่งกีซ่าในอียิปต์

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

  • ดาวอังคาร ภาษาอังกฤษ คือ Mars
  • ปกคลุม ภาษาอังกฤษ คือ Cover
  • นักธรณีวิทยา ภาษาอังกฤษ คือ Geologist
  • กล้องดูดาว ภาษาอังกฤษ คือ Telescope
  • กล้องโทรทัศน์ ภาษาอังกฤษ คือ Scope, Telescope, Binoculars
  • ประเทศมหาอำนาจ ภาษาอังกฤษ Mighty nation,Great power, Superpower