ถ้าหากว่า มีเซลล์หนึ่งบน Excel ถูกเว้นว่างไว้ให้กรอกปี เดือน วัน โดยผู้ใช้สามารถกรอกเข้าไปตรงๆ โดยไม่เว้นวรรคห้ามใช้เครื่องหมายพิเศษใดๆในเซลล์นี้ทั้งสิ้น เช่น
ที่เซลล์ a2 ถูกว่างไว้ และให้กรอก ปี เดือน วัน ดังนี้ 20180128
ซึ่งตัวเลขชุดนี้ ประกอบด้วย ปี เดือน วัน ตามลำดับ โดยถูกกรอกรวมติดกัน อย่างที่เห็น เมื่อผู้ใช้กรอกที่ช่อง a2 เสร็จแล้วกด Enter ที่ช่อง b2 จะปรากฏวันเดือน ปีที่ถูกต้อง ดังนี้  28/1/2018
คำถาม คือ เราจะมีวิธีแปลงให้เซลล์ b2 ได้คำตอบเป็น 28/1/2018 ได้อย่างไร
จริงๆเป็นเรื่องที่ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ขอเพียงแค่เรารู้จัก ฟังก์ชั่น ของ Excel สัก 2 – 3 ตัวซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่ไม่ซับซ้อนอะไร ก็แปลงได้แล้ว…คำตอบของปัญหา คือ การใช้คำสั่ง date เข้ามาช่วยนั่นเอง
โดยที่คำสั่ง date มี รูปแบบคือ date(year,month,day)
เมื่อเราเห็นรูปแบบของฟังก์ชั่น date แล้วคนที่เคยใช้ ฟังก์ชั่น Excel มาก่อนจะต้องร้องอ๋อ ทันที ว่าทำไม ช่อง a2 ต้องถูกกำหนดให้กรอกจาก ปี เดือน วัน ตามลำดับ…
ปัญหาต่อมาคือว่า ฟังก์ชั่น date มี สามช่องให้กรอก ช่องแรกเป็นช่องของ year
ช่องที่ 2 คือ ช่องของ month และ ช่องที่ 3 คือ ช่องของ day
แต่ใน เซลล์ a2 ถูกกรอกรวมกันติดกัน…เราจะทำอย่างไรให้ฟังก์ชั่น date รู้ว่าส่วนไหนเป็นปี เดือน วัน เช่น ช่องแรกของ date คือ year ช่องนี้เราจะกรอกสูตรอย่างไรให้ ฟังก์ชั่นเดท ดึง year จาก a2… คำตอบของปัญหานี้ คือ ฟังก์ชั่น mid, left, right… 3 ฟังก์ชั่นนี้ ทำหน้าที่ คือ mid = ดึงข้อความในตำแหน่งที่ต้องการออกมา, left = ดึงข้อความจากซ้ายมือ, right = ดึงข้อความจากขวามือ
ดังนั้น สูตรที่เราต้องการในช่อง b2 คือ =DATE(LEFT(A2,4),MID(A2,5,2),RIGHT(A2,2))
เมื่อใส่สูตรในช่องเซลล์ b2 แล้วกด Enter คำตอบในเซลล์ b2 ที่ได้ก็คือ
28/1/2018
ปีเดือนวันติดกัน แปลงกลายเป็น วันที่
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ

  • ติดกัน ภาษาอังกฤษ คือ Consecutive 
  • กรอก ภาษาอังกฤษ คือ Fill in