ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภถึงการถวายบริขารของพ่อค้าชาวเมืองคนหนึ่ง จึงได้ตรัสอดีตนิทานมาเล่าว่า
     กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว พระโพธิสัตว์เกิดเป็นกระต่าย อาศัยอยู่ในป่าแห่งหนึ่งท่ามกลางหุบเขาและแม่น้ำล้อมรอบ มีสัตว์สามตัวเป็นเพื่อนกันคือ สุนัขจิ้งจอก, ลิง และ นาก สัตว์ทั้งสี่เป็นสัตว์ที่มีศีลธรรม ในทุกๆ เย็นก็จะมารวมตัวกันเพื่อฟังโอวาทของกระต่ายเสมอ
     อยู่มาวันหนึ่ง กระต่ายมองดูดวงจันทร์ก็รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันพระ จึงบอกกับเพื่อนทั้งสามว่า

“เพื่อนทั้งสาม ในวันพรุ่งนี้เป็นวันพระ พวกเราจงรักษาศีล ให้ทานกันเถิดเพราะการรักษาศีลจะได้บุญกุศลมาก ขอให้พวกเราจงไปเตรียมอาหารเพื่อเอาไว้แบ่งปันคนขอทานกันเถิด” สัตว์ทั้งสามรับคำ แล้วแยกย้ายกลับไปยังที่อยู่ของตน

     ครั้งพอรุ่งเช้ามีนายพรานคนหนึ่งตกเบ็ดได้ปลาตะเพียน 7 ตัว ก็เอาทรายกลบไว้แล้วเดินทางต่อไปเพื่อหาอาหาร เมื่อนากออกหาอาหารก็ได้กลิ่นปลาจึงร้องขึ้น 3 ครั้ง เพื่อบอกให้เจ้าของปลารู้ เมื่อไม่มีเจ้าของปลานากจึงคาบเอาปลาทั้ง 7 ตัวกลับไปยังที่ตนรักษาศีลอยู่
     ฝ่ายลิงก็เข้าไปในป่าได้มะม่วงมาแล้วก็กลับที่อยู่ที่ตนนอนรักษาศีล ส่วนเจ้ากระต่ายรักษาศีลอยู่ในที่อยู่ของตน ไม่ได้ออกไปหาอาหารมาไว้ให้ทาน เพราะคิดที่จะสละชีวิตของตน จึงคิดในใจว่า
     “ถ้ามีคนมาขออาหาร งา และ ข้าวสาร เราก็ไม่มี ถ้าเช่นนั้นเราจะให้เนื้อของเราแก่เขาก็แล้วกัน”
     กระต่ายคิดแล้วก็นอนรักษาศีลต่อไป และด้วยความใฝ่ดีของกระต่ายทำให้ท้าวลักกะร้อนใจ จึงลงมาพิสูจน์การถือศีลของสัตว์ทั้งสี่ด้วยการแปลงร่างเป็นพราหมณ์ไปยังที่อยู่ของนากก่อน ร้องขออาหารกับนาก นากจึงกล่าวว่า
     “พราหมณ์ เรามีปลาตะเพียนอยู่ 7 ตัว ขอเชิญท่านเข้ามากินเถิด”
พราหมณ์รับปลาไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของสุนัขจิ้งจอก แล้วร้องขออาหารกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกพูดว่า
     “พราหมณ์ ข้ามีเนื้อย่าง 2 ไม้ ตัวเงินตัวทอง 1 ตัว นมและส้ม 1 ตะกร้า เชิญท่านมากินเถิด”
     “พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของลิง เอ่ยปากขออาหารเช่นเคย ลิงก็มอบอาหารให้พร้อมกับพูดว่า
     “พราหมณ์ ข้ามีมะม่วงสุก น้ำเย็น ขอเชิญท่านมากินและพักผ่อนก่อนเถิด”
     พราหมณ์รับไว้แล้วก็ไปที่อยู่ของกระต่าย พร้อมร้องขออาหารเช่นเดิม กระต่ายจึงพูดว่า
     “พราหมณ์ ขอเชิญท่านเตรียมก่อไฟเถิด เราไม่มีอะไรจะให้ท่าน นอกจากเนื้อของเรานี่แหละ ขอเชิญท่านกินเราเถิด”
     เมื่อท้าวสักกะในร่างของพราหมณ์ได้ยินเช่นนั้นจึงเนรมิตกองไฟขึ้น แล้วกระต่ายก็กระโดดเข้าไปในกองไฟทั้นที แต่ก็ต้องนึกแปลกใจว่าทำไมไฟจึงเย็นยิ่งนัก  กระต่ายจึงเอ่ยถามกับพราหมณ์ จึงได้คำตอบว่า
     “กระต่ายผู้เสียสละ เราไม่ใช่พราหมณ์หรอกน่ะ เราเป็นท้าวสักกะ มาเพื่อทดสอบศีลของท่านเท่านั้นเอง”
     กระต่ายเมื่อได้รู้ความจริงจึงบอกว่า
     “ท่านท้าวสักกะ ท่านหวังจะทดสอบข้าเท่านั้นเองหรือ แล้วชาวโลกจะรู้ว่าข้าตั้งใจจะให้ชีวิตของข้าเป็นทานได้อย่างไรกันเล่า”
     ท้าวสักกะได้ยินเช่นนั้นจึงตอบว่า
     “ไม่ต้องกังวลไป ความดีของท่านในครั้งนี้จะปรากฎให้ชาวโลกได้เห็นตลอดไป”
     ว่าแล้วท้าวสักกะก็เขียนรูปกระต่ายไว้บนดวงจันทร์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้ชาวโลกได้เห็นนับแต่นั้นเป็นต้นมา จากนั้นสัตว์ทั้งสี่ตัวก็ได้รักษาศีลตราบจนสิ้นชีวิต
     นิทานชาดกเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : การรักษาศีลเป็นสิ่งที่จำเป้นสำหรับชีวิตมนุษย์และสัตว์ เพราะผู้ที่รักษาศีลย่อมมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทวดาคุ้มครองให้ปลอดภัย ปราศจากอันตรายต่าง ๆ 

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรื่อง กระต่ายผู้สละชีวิต

  •  ผู้เสียสละ, สละชีวิต, เสียสละ ภาษาอังกฤษ Sacrifice
  •  ชาวโลก ภาษาอังกฤษ Common people, World population,
    Citizen of the world, Cosmopolite
  • รักษาศีล ภาษาอังกฤษ Observe the precepts
  •  นาก ภาษาอังกฤษ otter
  • วันพระ ภาษาอังกฤษ Holy day, Buddhist Sabbath
  •  พระโพธิสัตว์ ภาษาอังกฤษ Bodhisattva
  • ปราศจากอันตราย ภาษาอังกฤษ Unscathed