นามที่ห้าม ใช้ a an the นำหน้า ตอนที่ 5 (ตอนจบ)

18. ชื่อถนน, สวนสัตว์, วงเวียน, วันสำคัญทางศาสนา และวันหยุดทางราชการ ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น

Sukhumvit Road ถนนสุขุมวิท

Wireless Road ถนนวิทยุ

Rajadamnoen Avenue ถนนราชดำเนิน

Dusit zoo สวนสัตว์ดุสิต

Rajdevi Circle วงเวียนราชเทวี

Songkran Day วันสงกรานต์

Christmas วันคริสต์มาส

Thanksgiving วันขอบคุณพระเจ้า

New Year’s Day วันปีใหม่

Easter วันอีสเตอร์ เช่น

Her house is on Sukhumvit Road.

คนไทยรดน้ำดำหัวกันในวันสงกรานต์

19. ไม่ใช้ Article นำหน้านามที่มีจำนวนเลขนับตามหลัง เช่น

Page ten หน้า 10

Chapter nine บทที่ 9


World war two
สงครามโลกครั้งที่ 2

April 20 วันที่ 20 เมษายน เช่น

Please open on page ten and read after me.

กรุณาเปิดขึ้นบนหน้าที่ 10 แล้วอ่านตามฉัน

This is Chapter nine for me to read.

นี้คือบทที่ 9 สำหรับฉันที่จะอ่าน

แต่ให้ใช้ the นำหน้าวันที่ที่เขียนเต็ม เช่น

The fourth of January วันที่ 4 เดือนมกราคม

The first of May วันที่ 1 เดือนพฤษภาคม

20. ไม่ใช้ Article นำหน้านามที่เป็นชื่อของโรคต่าง ๆ เช่น

Cholera อหิวาตกโรค

Influenza ไข้หวัดใหญ่

Malaria โรคไข้จับสั่น

Rheumatism โรคปวดข้อ เช่น

Every year many people die of malaria.

ทุกๆ ปี คนจำนวนมากตายด้วยโรคไข้จับสั่น

Mary can’t go to school because of influenza.

แมรี่ไม่สามารถไปโรงเรียนได้เพราะเป็นไข้หวัดใหญ่

21. ยานพาหนะทุกชนิดที่ใช้ในการเดินทางโดยวางไว้หลังบุรพบท “by” ไม่ต้องใช้ Article นำหน้าได้ เช่น

By car
โดยรถยนต์

By taxi โดยรถแท็กซี่

By train โดยรถไฟ

By plane โดยเครื่องบิน

By boat โดยเรือ

By bicycle โดยรถจักรยาน

อนึ่ง กับสำนวนต่อไปนี้ก็ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า ได้แก่

On foot ด้วยเท้า

At sea
ทางทะล

By land โดยทางบก

By water โดยทางน้ำ

On horseback ขี่ม้า

On buffalo
ขี่ควาย เช่น

Most of the students go to university by bus.

นักศึกษาส่วนมาก ไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัยโดยรถประจำทาง

Some labours go to work on foot.

คนงานบางคนก็เดินไปทำงาน

I go to Nonthauri by water.

ฉันไปนนทบุรีโดยทางน้ำ

22. ไม่ใช้ Article นำหน้านามที่ไปทำหน้าที่เป็น Object ตัวที่ 2 ในกรณีที่ Object ตัวที่ 2 นั้นเป็นชนิดหรือประเภทเดียวกันกับตัวที่ 1 พราะเห็นว่าเป็นหน่วยเดียวกัน เช่น

Please bring me a cup and saucer.

กรุณานำถ้วยพร้อมจานรองมาให้ฉันด้วย

(อย่าใช้ : a cup and a saucer)

John is used to using a knife and fork.

จอห์นเคยกับการใช้มีดและซ่อมเสียแล้วล่ะ

(อย่าใช้ : a knife and a fork)

23. ไม่ใช้ Article นำหน้านามที่ไปทำหน้าที่เป็น Subjective Complement ของกริย่า Turn ในกรณีที่แปลว่า “กลายเป็น, เปลี่ยนเป็น” เช่น

Samart was a singer before he turned teacher.

สามารถเป็นนักร้องมาก่อนที่เขาจะกลายเป็นครู

He turned traitor and fought against me.

เขากลายเป็นคนทรยศและได้ต่อสู้กับฉัน

24. หน้าคำนามที่เป็นอักษรย่อ ถ้าออกเสียงเป็นพยางค์ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น

UNO (ยูโน)

SEATO (ซีโต)

WHO (ฮู)

UNESCO (ยูเนสโก)

แต่ถ้าออกเสียงอ่านเป็ฯรายตัวอักษรต้องใช้ the นำหน้า เช่น

The U.K. = The United Kingdom (สหราชอาณาจักร)

The U.S.A. = The United States of America (สหรัฐอเมริกา)

ข้อยกเว้น : นามที่เป็นชื่อสายการบินต่างๆ แม้จะอ่านเป็นพยางค์หรืออ่านทีละตัวอักษร ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า เช่น

TWA (ทีดับบลิวเอ)

BOAC (บีโอเอซี)

CPA (ซีพีเอ)

PAN AM (แพนแอม) เช่น

My father has worked with UNESCO for five years.

คุณพ่อของฉันได้ทำงานกับหน่วยงานยูเนสโกเป็นเวลา 5 ปีแล้ว

They are going to arrive here by TWA.

พวกเขาจะมาถึงที่นี่โดยสายการบินทีดับบลิวเอ

25. หน้าคำนามต่อไปนี้ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า ถ้านำมาใช้ในความหมายเพื่อกิจกรรมเฉพาะตัวของมันเองได้แก่ school, church, market, prison, bed,sea,hospital,college,court,work (ที่ทำงาน) เช่น

We go to school. พวกเราไปโรงเรียนเพื่อเรียนหนังสือ

Go to church. ไปโบสถ์เพื่อสวดมนต์

Go to market. ไปตลาดเพื่อซื้อข้าวของ

Go to prison. ไปเรือนจำเพื่อติดคุกฐานเป็นนักโทษ

Go to bed. ไปนอนเพราะง่วงนอน

Go to sea. ไปเป็นกะลาสี (ทหารเรือ)

Go to hospital. ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจโรค

Go to college. ไปวิทยาลัยเพื่อศึกษาเล่าเรียน

Go to court.
ไปศาลในฐานเป็นโจทย์นำคดีขึ้นฟ้องร้อง

Go to work. ไปทำงานในฐานเป็นคนงาน

คำนามตามที่กล่าวมานี้ ถ้าจะใช้ the นำหน้าก็ได้ แต่ความหมายเพื่อกิจกรรมเฉพาะตัวของมันย่อมผิดไปจากเดิมตัวอย่างเช่น

They go to the school. เขาไปโรงเรียนเพื่อเยี่ยมอาจารย์ใหญ่ หรือ เพื่อชมกิจการของโรงเรียน

Go to the church.
ไปโบสถ์เพื่อชมภาพจิตรกรรม

Go to the market. ไปตลาดเพื่อดูผู้คนหรือความโอ่อ่า

Go to the prison. ไปเรือนจำเพื่อเยี่ยมญาติที่เป็นนักโทษ

Go to the bed. ไปดูเตียงนอนหรือจัดที่นอน

Go to the sea. ไปเที่ยวทะเลเพื่อชมวิว

Go to the hospital. ไปโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมคนป่วย

Go to the college. ไปวิทยาลัยเพราะนัดพบกับใครไว้

Go to the court. ไปศาลเพื่อดูการตัดสินคดี

Go to the work. ไปที่ทำงานเพื่อเยี่ยมคนรู้จัก

26. คำนามที่นำมาใช้เป็น Object (กรรม) ของ Verb (กริยา) ต่อไปนี้ไม่ต้องใช้ Article นำหน้า ส่วนมากมักจะเข้าใจกันว่าเป็นรูปจำนวน (Idioms) ได้แก่

Attend class เข้าเรียน

Break silence ทำลายความเงียบ

Bring word บอกข่าว

Head first เอาหัวไปก่อน

Cut class ขาดเรียน

Leave home ออกจากบ้าน

Catch fire ติดไฟ

Leave school ออกจากโรงเรียน

Declare ware ประกาศสงคราม

Lay siege ล้อมรอบ

Drop anchor ทอดสมอ

Lose patience หมดความอดทน

Lose heart ท้อใจ

Lose temper กลั้นอารมณ์ไม่อยู่

Make friends with ทำความรู้จัก

Shake hands จับมือ

Make fun of ทำให้เป็นตัวตลก

Take advantage of เอาเปรียบ

Sent word
ส่งข่าว

Take breath หายใจ

Set foot ย่างเท้า

Take care of ดูแล

Set to work เริ่มทำงาน

Take notice of สังเกต

Set sail ออกเรือ

Take offence
โกรธเคือง

Cast anchor ทอดสมอ

Take part in
มีส่วนร่วม

Weige anchor ถอนสมอ

take pity on สงสาร

give eat เอาใจใส่

take pride in ภูมิใจ

have faith in ศรัทธาใน

take revenge แก้แค้น

เช่น

I left school when I was twelve years old.

ฉันออกจากโรงเรียนเมื่อตอนฉันอายุ 12 ปี

Sunan is too young girl to catch fire by herself.

สุนันเป็นเด็กหญิงตัวเล็กเกินไปที่จะติดไฟเองได้

27. ไม่ใช้ Article นำหน้านามที่มาเป็น Object ของ Proposition ต่อไปนี้ในลักษณะที่ใช้เป็นสำนวนได้แก่

At home ที่บ้าน

In debt เป็นหนี้

At sunrise ตอนพระอาทิตย์ขึ้น

In bed นอน

At daybreak เช้าตรู่

In jail
ติดคุก

At dinner ขณะทานอาหารเย็น

At school ที่โรงเรียน

At night
เวลากลางคืน

On time ตรงเวลา

In hand อยู่ในมือ, พร้อมแล้ว

In town
อยู่ในเมือง

In jest เป็นการตลก

In place of แทนที่

At noon ตอนเที่ยง

At sunset ตอนพระอาทิตย์ตก

At ease ตามสบาย

By day เวลากลางวัน

By land
ทางบก

By air ทางอากาศ

In face at danger
เมื่อเผชิญอันตราย

In order of size
ตามลำดับของขนาด

In case of fire ในกรณีเกิดไฟไหม้

On deek บนดาดฟ้า

On demand
ตามคำสั่ง

Under cover of กำบัง

At work ขณะทำงาน

For love
เพราะความรัก

In sight of มองเห็น

In time ทันเวลา

On foot โดยเท้า
(เดิน)

On horseback โดยการขี่ม้า

On earth ในโลก

เช่น

Today she is at home; not to work as usual.

วันนี้หล่อนอยู่ที่บ้าน ไม่ได้ไปทำงานตามปกติ

I have money in hand to buy a new car.

ฉันมีเงินพร้อมแล้วที่จะซื้อรถใหม่

The students go there on foot in time.

พวกนักศึกษาเดินไปถึงที่นั่นทันเวลา