การ เรียนภาษาอังกฤษ ให้แตกฉาน คำศัพท์นับเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งค่ะ ถ้าเราจะรู้แค่คำศัพท์พื้นๆ เราคงไม่ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญเป็นแน่ แต่ถ้าหลายๆคนมุ่งประเด่นที่ว่า เรียนเพื่อให้คุยกับชาวต่างชาติได้พอรู้เรื่อง คำศัพท์เฉพาะภาษาอังกฤษต่างๆ เราก็ไม่จำเป็นต้องรู้มากก็ได้ค่ะ เพราะมันเยอะมาก คงเรียนกันไม่หวาดไม่ไหว แต่ในวันนี้ ที่เอาคำศัพท์บริหารธุรกิจมาให้เรียนในวันนี้ ก็หวังเพียงว่า เราจะได้เปิดโลกทัศน์ทางด้านคำศัพท์ที่เฉพาะในสาขาอื่นๆดูบ้างค่ะ ไม่แน่วันข้างหน้าเราอาจใช้คำศัพท์เหล่านี้ก็ได้ ใครจะไปรู้ แต่ถึงไม่ได้ใช้ประโยชน์ก็ดูไว้ผ่านๆตา หรือเก็บเป็นความรู้ไว้อ้างอิงในอนาคตก็ได้ค่ะ เอ้ามาดูกันซิว่า คำศัพท์เหล่านี้มีอะไรกันบ้าง เอ้า ลุยยยยยยยยยยยยยยยยยย


1. ศัพท์ทางด้านการเงินการบัญชี หมายถึง วิธีการใส่รายการทางบัญชีบางประเภท เช่น ค่าวิจัยและพัฒนา ( R & D) เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน ตรงกันข้ามกับ Below the line ซึ่งจะใส่รายการนี้เป็นทุนและจะทำให้ตัวเลขกำไรต่างออกไป : Above the line

2. การส่งเสริมการขายโดยการโฆษณาสินค้าในสื่อสารมวลชนทั่วไป ตรงกันข้ามกับ Below the line advertising ซึ่งเป็นการส่งเสริมการขายทางตงโดยวิธีการต่างๆ มากกว่าการใช้สื่อสารมวลชน : Above the line advertising

3. ลูกจ้างซึ่งไม่มาทำงานตามหมายกำหนดการ : Absences

4. การขาดงานของลูกจ้างในช่วงเวลทำงานปรกติ ทั้งโดยการสมัครใจขาดงานเอง หรือโดยเหตุอื่นที่ลูกจ้างควบคุมไม่ได้ เช่น ป่วย เกิดสภาพที่เดินทางมาไม่ได้ ถ้าหากมีอัตราการขาดงานมากก็ย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพในการผลิตงานได้ : Absenteeism

5. การที่เจ้าของทรัพย์สินหรือกิจการไม่ได้อาศัยอยู่ ณ ที่ของตน และจ้างคนอื่นมาเป็นผู้จัดการแทน : Absentee management

6. การได้เปรียบสูงสุด หมายถึง การที่บริษัทหรือประเทศสามารถผลิตและกระจายสินค้าหรือชนิดใดชนิดหนึ่ง โดยใช้ต้นทุนต่ำกว่าที่อื่น : Absolute advantage

7. การผูกขาดโดยสิ้นเชิงที่บริษัทหนึ่งบริษัทใดสามารถควบคุมการผลิตสินค้าหรืบริการชนิดหนึ่งซึ่งไม่มีสินค้าหรือบริการอื่นมาทดแทนได้ ทำให้เขาสามารถตั้งราคาสูงและหากำไรเกินปกติได้มาก : Absolute monopoly

8. การขายแบบไม่มีเงื่อนไข ที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายไม่มีปัญหาหรื ไม่ทำให้การตกลงซื้อขายต้องเลื่อนเวลาออกไป ต่างกับ conditional sale การขายแบบมีเงื่อนไข : Absolute sale

9. การรวมธุรกิจเล็กเข้าด้วยกันกับธุรกิจใหญ่ : Absorption

10. ทฤษฎีการจัดการที่มองว่าอำนาจของผู้บริหารอยู่ที่ความเต็มใจของลูกจ้างที่จะยอมรับสิทธิอำนาจของผู้บริหาร ทฤษฎีนี้มักเน้นให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีอำนาจในการตัดสินใจมากขึ้น แทนที่จะให้แต่ผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้ตัดสินใจในทุกเรื่อง : Acceptance theory of authority

11. นโยบายและมาตรการในการป้องกันอุบัติภัยในสถานที่ทำงาน หรือพยายามลดจำนวนอุบัติภัยให้เหลือน้อยลงเท่าที่จะทำได เช่น การจัดวางเครื่องจักรอุปกรณ์ต่างๆ การใช้เสื้อผ้าและเครื่องคุ้มครองอื่นๆ การฝึกอบรมคนงาน และการควบคุมดูแลการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ : Accident prevention

12. อุบัติภัยในที่ทำงานซึ่งอาจเกิดจากความสะเพร่าเลินเล่อ การไม่มีมาตรการป้องกันอุบัติภัยเพียงพอ หรือเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัวเป็นครั้งคราว เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสภาพการทำงานที่จะต้องมีการคอยดูแลแก้ไขป้องกันไม่ให้เกิดขึ้น และเมื่อเกิดขึ้นแล้วจะต้องมีการทำรายงานและการจ่ายค่าชดเชยให้ : Accidents

13. การวัดอัตราส่วนสภาพคล่อง (liquidity ratio) ขององค์กรธุรกิจ โดยเปรียบเทียบสินทรัพย์หมุนเวียนกับหนี้สินหมุนเวียน เพื่อดูว่าองค์กรธุรกิจมีความสามารถในการใช้หนี้ได้มากน้อยเพียงไรอย่างน้องต้องมีค่าเท่ากับ 1 นั่นคือ สินทรัพย์หมุนเวียนเท่ากับหนี้สินหมุนเวียน ธุรกิจนั้นจึงจะไปรอดได้ : Acid test

14. 1. บัญชีรายการทางการค้าแสดงจำนวนเงินที่ฝ่ายหนึ่งเป็นหนี้อีกฝ่ายหนึ่ง 2. บัญชีแสดงความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างหน่วยธุรกิจและลูกค้า : Account

15. 1. สภาพที่บุคคลคนหนึ่งสามารถที่จะกระทำงานที่เขามีสิทธิอำนาจที่จำเป็นโดยเขาเป็นผู้รับผิดชอบผลการกระทำนั้น ๆ 2. กระบวนการรายงานตามสายบังคับบัญชาถึงผลงานของกลุ่มทำงาน หรือ หน่วยงานที่ย่อยกว่า : Accountability

16. การทำบัญชี ซึ่งหมายถึงการวิเคราะห์และสรุปตัวเลขต่างๆ เกี่ยวกับการติดต่อทางธุรกิจและการตีความหมายความสำคัญของตัวเลขเหล่านั้น : Accountancy

17. ระบบการรวบรวม และบันทึกข้อมูลทางการเงิน เช่น สินทรัพย์ หนี้สินเงินทุนส่วนของเจ้าของทรัพย์สินที่มีการลงทุน ฯลฯ : Accounting

18. รอบระยะเวลาของรายงานทางการเงินที่จัดทำโดยองค์กรสำหรับใช้ภายใน อาจจะเป็นทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน สำหรับการประกาศต่อสาธารณชนภายนอก มักจะเป็น 1 ปี หรือ 6 เดือน : Accounting period

19. การทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ : Achievement

20. แรงจูงใจที่จะเอาชนะสิ่งท้าทายและอุปสรรคต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมาย : Achievement motive

21. การขยายกิจการแบบเข้าไปซื้อหรือถือหุ้นในกิจการอื่น : Acquisition

22. สังคมซึ่งประชาชนได้รับการกระตุ้นโดยสม่ำเสมอให้เป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ นักเศรษฐศาสตร์หลาย คนเชื่อว่า ถ้าไม่มีแรงกระตุ้นนี้ เศรษฐกิจอาจ จะซบเซาจนไปไม่รอด : Acquisitive society

23. การแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทต้องการเข้าไปซื้อหุ้นในกิจการใดกิจการหนึ่งโดยเปิดเผย : Acting in concert

24. ศัพท์ทางกฎหมาย หมายถึง การดำเนินเรื่องเพื่อเรียกร้องสิทธิทางกฎหมาย : Action

25. เทคนิคของการพัฒนาการบริหารจัดการ ที่คิดขึ้นในอังกฤษโดย John Adair มุ่งฝึกอบรมการเป็นผู้นำด้วยการแก้ปัญหาที่เป็นจริง โดยเน้นการลงมือทำ (doing) มากกว่าการเป็นอยู่ (being) และให้ความสนใจพฤติกรรมที่เป็นที่คาดหมายของผู้นำในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปแล้วแต่ความต้องการของปัจเจกชน, กลุ่ม หรือ ความต้องการของงาน : Action-centered leadership

26. เทคนิคของการพัฒนาการบริการจัดการที่คิดโดย R.G. Ravans ในอังกฤษ เพื่อเป็นการแก้ปัญหาข้อบกพร่องของการฝึกอบรมทางธุรกิจอย่างเป็นทางการแบบเก่า โดยเน้นที่การจัดการกับปัญหาที่แท้จริง และที่เพิ่งเกิดขึ้นภายในองค์กร ของผู้เข้ารับการอบรม เช่น ให้กลุ่มผู้จัดการแลกเปลี่ยนเสนอแนะประสบการณ์และทักษะของตน ทำให้แต่ละคนมีโอกาสที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลุ่ม และเรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของตนเอง ขณะเดียวกันก็ได้รับความรู้และทักษะที่ใช้งานได้ : Action learning

27. ยุทธศาสตร์ในการวางแผนแบบลงมือทำ โดยการกำหนดระยะเวลาในการดำเนินการ กำหนดกลุ่มเป้าหมาย วิธีการดำเนินงาน เพื่อพัฒนาระดับแรงจูงใจในการทำงาน การสื่อสารภายใน และการร่วมมือกันของพนักงานในองค์กรและเพื่อให้บรรลุผล ตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ : Action planning

28. การวิจัยเชิงปฏิบัติการ การใช้ความคิดริเริ่มของสมาชิกองค์การที่เอาการเอางาน เพื่อจูงใจให้ทีมนักวิจัยได้วิจัยและแนวคิดใหม่ๆ และทักษะในการแก้ปัญหาโดยมีพื้นฐานอยู่ที่การปฏิบัติงานร่วมกัน : Action research

29. เทคนิค 1 ใน 3 อย่างที่เสนอโดย Peter Drucker เพื่อช่วยองค์กรทำงานตัดสินว่าจะวางโครงสร้างขององค์กรอย่างไรจึงจะเหมาะสมที่สุด โดยพิจารณาว่าจริงๆ แล้วกิจกรรมหลักๆ ขององค์กรคืออะไรบ้าง แทนที่จะดูจากการทึกทักว่ามันคืออะไร โดยไม่ได้ตั้งคำถาม เทคนิคอีก 2 อย่างที่เขาเสนอคือ Decision analysis และ Relations analysis : Activities analysis

30. การปรับตัวทั้งโดยสัญชาติญาณและการปรับตัวทางสังคมของมนุษย์ : Adaption

31. รูปแบบการกำหนกฎเกณฑ์ด้วยตัวเองในกระบวนการผลิตของอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ วางโปรแกรมโดยคอมพิวเตอร์โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาระดับการทำงานให้อยู่ในจุดสูงสุดในสถานที่สิ่งแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลง : Adaptive control

32. การเพิ่มมูลค่าในสินค้าและบริการจากกระบวนการผลิตหรือการกระจาย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการใช้กำลังแรงงานเปลี่ยนแปลงวัตถุให้มีมูลค่าสูงขึ้นบางครั้งวัดด้วยส่วนต่างระหว่างรายได้จากการขายและรายจ่ายของการลงทุนค่าวัตถุดิบและค่าแรง : Added value

33. คณะกรรมการชั่วคราว ซึ่งสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับสถานการณ์ที่มีลักษณะเฉพาะหนึ่ง ๆ : Ad hoc committee

34. ศัพท์ใหม่เสนอโดย Alvin Toffler (ผู้เขียน Future shock) หมายถึง แนวโน้มที่องค์กรจะก้าวหน้าไปบนพื้นฐานของกลุ่มเฉพาะกิจซึ่งตั้งขึ้นมาเพื่อจัดการกับโครงการหนึ่งโครงการใดเท่านั้น : Adhocracy

35. 1. การควบคุม ชี้นำ หรือการบริหารจัดการองค์การ 2. กลุ่มผู้บริหาร ผู้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ในข้อ 1: Administration

36. การตัดสินใจโดยผู้บริหารระดับกลาง เกี่ยวกับเรื่องทางยุทธวิธีที่จะทำให้ยุทธศาสตร์รวมของผู้บริหารระดับสูงบังเกิดผล : Administrative decisions

37. ค่าใช้จ่ายในการบริหารทั่วๆไป ซึ่งแยกออกมาจากค่าใช้จ่ายเฉพาะอื่นๆ Administrative expense

38. แนวทางการศึกษาเรื่องการบริหารจัดการ เสนอโดย Henry Faoyl และคนอื่นๆในทศวรรษ 1930 เน้นความสำคัญของโครงสร้างแบบเป็นทางการ และการจัดลำดับโครงสร้างผู้บริหารขององค์กร : Administrative management theory

39. การศึกษาเรื่องการบริหารจัดการในทุกๆด้านอย่างเป็นระบบ ทั้งในการบริหารจัดการธุรกิจและการบริหารจัดการองค์กรสาธารณะ และ การพยายามสร้างหลักเกณฑ์ทั่วไป ที่จะประยุกต์ใช้ได้กับองค์กรทุกรูปแบบ Administrative science

40. แรงจูงใจที่จะมีความสัมพันธ์กับคนอื่นบนพื้นฐานทางสังคม : Affiliation motive

41. การรับสมาชิกจากกลุ่มทางสังคมทุกกลุ่มเข้ารับการศึกษาหรือทำงานอย่างเสมอภาคกัน โดยไม่มีการกีดกันในเรื่องอเชื้อชาติ ศาสนา เพศ อายุ รวมทั้งการสนับสนุนผู้ด้อยโอกาสผู้มักถูกกีดกันให้มีงานทำ, ได้รับการฝึกอบรมและได้รับการเลื่อนขั้น : Affirmative action

42. (สหรัฐ) กฎหมายซึ่งประกันให้ผู้มีอายุ 40-70 ปี มีโอกาสในการทำงานทัดเทียมกับคนอื่นโดยไม่ถูกกีดกันในเรื่องอายุ : Age discrimination act

43. การกีดกันคนมีอายุไม่ให้ทำงานประเภทใดประเภทหนึ่ง เช่น การไม่ยอมจ้างนางแบบที่อายุเกิน 20 ปี ไม่ยอมจ้างเลขานุการที่อายุเกิน 40 ปี ซึ่งจัดเป็นการกีดกันที่ตั้งขึ้นโยพลการ เช่นเดียวกับการกีดกันเรื่องผิว (Racism) หรือเรื่องเพศ (Sexism) : Ageism

44. 1. องค์กรซึ่งมีผลผูกพันทางกฎหมาย ซึ่งบุคคลสำคัญขององค์กรได้มอบหมายให้คนอื่น (ตัวแทน) เป็นผู้กระทำแทน 2. บริษัท องค์กร หรือสำนักงานธุรกิจ ซึ่งกิจกรรมหลักคือ การให้บริการแก่บริษัทอื่น : Agency

45. ตัวแทน หมายถึงบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนในการซื้อหรือขายหรือในการทำสัญญา : Agent

46. การจัดกลุ่มลูกหนี้ ตามอายุของหนี้ หรือ เวลาของหนี้ที่ค้างชำระ เพื่อใช้เป็นเครื่องชี้โอกาสที่จะได้รับชำระหนี้คืน และโอกาสที่หนี้จะสูญ : Aging of accounts receivable

47. การเตรียมการวางแผนหมายกำหนดการผลิตระยะปานกลาง รวมทั้งแผนที่จะสนองความสามารถในการผลิตที่จำเป็น เพื่อให้เสร็จทันหมายกำหนดการที่วางไว้ : Aggregate planning

48. การจัดสรรเงินทุนระยะสั้นมาให้ลงทุนในสินทรัพย์ระยะยาวแบบกล้าได้กล้าเสีย : Aggressive hedge

49. ความรู้สึกแปลกหน้า, แปลกแยก, ไร้อำนาจของคนในสังคมพัฒนาอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวเอง, ต่องาน, ต่อคนอื่น, ต่อความมั่นคั่ง และ ปัจจัยการผลิตในสังคม หรือ ต่อสังคมทั้งหมด : Alienation

50. 1. การแบ่งทรัพยากรหรือค่าใช้จ่ายกิจกรรมแต่ละอย่างของแผนกต่างๆในองค์กร 2. จำนวนเงินที่ได้รับการจัดสรร : Allocation

51. ปัญหาในวิชาการบริหารจัดการว่าเราจะจัดสรรเพื่อใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดไปในทางเลือกทางหนึ่งทางใด เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดได้อย่างไร ในบางกรณีอาจจะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยตัดสินใจได้ แต่ถึงที่สุดแล้วการตัดสินใจอยู่ที่ผู้บริหาร ผู้จะต้องใช้ข้อมูลและเครื่องมือที่มีอยู่ให้ดีที่สุด : Allocation problem

52. ข้อจำกัดในการกระจายทรัพยากรหายาก : Allocative values

53. 1. การยอมรับระดับการทำงานที่พอไปได้ 2. จำนวนเงินที่หัวหน้างานหรือผู้บังคับบัญชาอนุมัติให้เป็นค่าใช้จ่าย : Allowance

54. เวลาที่ลูกจ้างซึ่งทำงานได้ค่าจ้างเป็นชิ้น ได้รับอนุญาตให้ทำงานบางอย่าง และกิจกรรมส่วนตัวตามแต่จะตกลงกัน เช่น เวลารักษาดูแลเครื่องจักร, เวลาหยุดพักกินอาหาร : Allowed time

55. หมายถึง นโยบายหรืการปฏิบัติใดๆ ที่ถือว่าเงินเป็นฐานแห่งอำนาจ : Almighty dollar

56. ระบบทำงานเป็นกะแบบที่ผู้ทำงานสามารถมีทางเลือกได้ 2 แบบ เช่น สัปดาห์นี้ทำงานกะกลางวัน สัปดาห์หน้าทำงานกะกลางคืน หรือ กะเข้าเช้า กะที่เข้าสายเป็นต้น : Alternating shift

57. เทคนิคในทางสถิติซึ่งใช้ในการหาว่ามีควสามสัมพันธ์ระหว่างชุดของข้อมูลหลายชุดหรือไม่ : Analysis of variance

58. การรวมบริษัทนับตั้งแต่ 2 แห่งขึ้นไปเข้าด้วยกัน บางทีก็ใช้คำว่า Merger หรือ combination : Amalgamation

59. 1. (ในทางกฎหมาย) การโอนสิทธิในการทรัพย์สินเพื่อประโยชน์ทางการกุศล 2. (ทางพาณิชย์) การใช้คืนหนี้หรือเงินกู้ที่ได้กู้ยืมมาซื้อทรัพย์สินนั้นเป็นงวด ๆ โดยวิธีหักค่าเสื่อมราคาจากเงินสำรองที่ตั้งไว้ (sinkingfund) 3. การตัดจำหน่ายมูลค่าของสินทรัพย์ถาวรที่มีลักษณะเป็นสิทธิ เช่น สัมปทาน สัญญาเช่าระยะยาว โดยลดลงตามอายุใช้งาน : Amortize, Amortization

60. การวิเคราะห์ การกำหนดองค์ประกอบหรือส่วนสำคัญของบางสิ่งบางอย่างในทางธุรกิจ และการคลัง การวิเคราะห์อาจจะหมายถึงการศึกษาอย่างละเอียดหรือ การสำรวจค้นคว้าหัวข้อเรื่องหนึ่งเรื่องใด และสรุปเป็นรายงานไว้ช่วยการตัดสินใจของผู้บริหาร (Cost analysis การวิเคราะห์ต้นทุนในการผลิตสินค้าชนิดหนึ่งชนิดใด ก่อนที่จะเริ่มโครงการ : Analysis

61. เทคนิคในการหาค่าใช้จ่ายโดยประมาณของกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง โดยการคิดค่าธรรมเนียมใช้จ่ายของแต่ละแผนก สำหรับกิจกรรมนั้นๆ : Analytical estimating

62. บันทึกซึ่งใช้ข้อมูลเพิ่มเติม หรือวิจารณ์ เสนอแนะ หรือ อธิบายเอกสารที่ส่งมาก่อนหน้านี้แล้ว : Annotation

63. รายงานผลการดำเนินงาน และฐานการเงินขององค์กรธุรกิจประจำปีจากผู้อำนวยการบริษัทถึงผู้ถือหุ้น : Annual report

64. (สหรัฐ) กฎหมายต่อต้านทรัสต์ หรือการรวมกลุ่มกันเพื่อการผูกขาด ซึ่งสหรัฐได้ออกมาใช้เพื่อตรวจตราและควบคุมการรวมตัวกันเพื่อการผูกขาด แต่ในทางปฏิบัติก็ยังมีช่องโหว่ให้หลีกเลี่ยงได้ : Anti-trust laws

65. การวิจัยประยุกต์ การวิจัยสำรวจทดลองโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะนำความรู้ที่ได้มาไปใช้ให้เกิดประโยชน์ : Applied research

66. การประเมินผลการทำงานของคนในองค์กร มีจุดมุ่งหมายให้ผู้ทำงานพยายามปฏิบัติงานให้ดียิ่งขึ้น และให้เขาเข้าใจว่าทำไมเขาจึงถูกผู้ประเมินผล มองว่าเข้าทำงานดีหรือเลวอย่างไร การประเมินผลมักจะทำทั้ง 2 ระดับคือ ให้ผู้ประเมินผลประเมินตัวเอง และหัวหน้างานประเมินผลคนผู้นั้นอีกครั้ง ตามทฤษฎีแล้วควรจะสนับสนุนให้ผู้ประเมินผลตัวเองชี้ทั้งผลสำเร็จและข้อบกพร่องของเขา และแสดงทัศนะว่าเขาจะแก้ไขข้อบกพร่องของเขาที่ผ่านมาได้อย่างไร : Appraisal

67. การคำนวณหามูลค่าหรือต้นทุนทรัพย์สิน ด้วยการตรวจสอบและประเมินอย่างเป็นทางการโดยการนำปัจจัยต่างๆ มากที่สุดเท่าที่จะมากได้มาคิดด้วย เพื่อที่จะ ขายหรือเพื่อที่จะเสียภาษี หรือเพื่อการใดการหนึ่ง : Appraise