การใช้เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ (Real Conditions)

ถาม : เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ (Real Conditions) หมายความถึงการกระทำหรือเหตุการณ์เช่นไร กริยา (Verb) ของเงื่อนไขนี้ใช้ Tense อะไรบ้าง จงอธิบายมา

ตอบ : เงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอ (Real Conditions) หมายความว่า “ถ้ามีการกระทำหรือเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นแล้ว เหตุการณ์เช่นนั้นก็จะเกิดขึ้นตามมาทันทีโดยไม่มีข้อยกเว้น” เช่น

ถ้าน้ำเดือด มันก็จะกลายเป็นไอ

ถ้าไม่มีดวงอาทิตย์ โลกก็จะมืด

ที่กล่าวมานี้เนื้อความมีลักษณะเป็นเหตุและผลกันและกัน จะขาดเสียส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้ และรูปกริยาของประโยคเงื่อนไขที่เป็นจริงเสมอนี้มีอยู่ 3 รูปแบบคือ

แบบที่ 1 : If + Present, + Present
(ปัจจุบัน บวก ปัจจุบัน)

เช่น if water boils, it changes into steam.

ถ้าน้ำเดือด มันก็จะกลายเป็นไอ

if the students study hard, they pass their exams.

ถ้านักศึกษาเรียนอย่างขะมักเขม้น เขาก็จะสอบไล่ได้

if you hurt a dog, it bites you

ถ้าคุณรังแกสุนัข มันก็จะกัดคุณ

if my dog sees a stranger, it barks out loud.

ถ้าสุนัขของผมเห็นคนแปลกหน้า มันก็จะเห่าออกมาอย่างดัง

ข้อความที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ถือได้ว่าเป็นความจริงเสมอ หรือถือเป็นกฎตายตัวได้ว่า เมื่อเหตุการณ์แรกเกิดขึ้น เหตุการณ์ที่สองก็จะเกิดขึ้นตามมาทันที

แบบที่ 2 : if + Present, + Future
(ปัจจุบัน บวก อนาคต)

เช่น : If the sun does not shine, all animals will die.

ถ้าดวงอาทิตย์ไม่ส่องแสง สัตว์ทั้งหมดก็จะตาย

if you add 2 to 4, you will get 6.

ถ้าคุณบวก 2 กับ 4 คุณจะได้ (ผลลัพธ์) 6

if you speak Chinese, he won’t understand you.

ถ้าคุณพูดภาษาจีน เขาจะไม่เข้าใจคุณเลย

หมายเหตุ : รูปกริยาที่เขียนไว้ในกรอบว่า “Present” ข้างบนนี้ หมายความว่า จะเป็น Present แบบไหนก็ได้ เช่น Present simple, Present Perfect หรือ Present Continuous ได้ทั้งนั้น แล้วแต่ใจความที่ผู้พูดต้องการพูดเป็นหลัก และ future ก็เช่นกันจะเป็น Future อันไหนได้ทั้งนั้นแล้วแต่ความหมาย เช่น

if my dog has seen a stranger, it will give barks.

ถ้าสุนัขของผมได้เห็นคนแปลกหน้า มันจะเห่า

if he begins early morning, he will have finished by noon.

ถ้าเขาเริ่มแต่เช้าตรู่ เขาก็จะเสร็จเอาตอนเที่ยง

If my buffalo is drinking water, it will lower its head.

ถ้าควายของผมกำลังดื่มน้ำ มันจะเอาหัวลง

if he is ill, he goes to see a doctor.

ถ้าเขาป่วย เขาจะไปหาหมอ

แบบที่ 3 : if + Present, + Imperative
(ปัจจุบัน บวก คำสั่ง, กล่าวตักเตือน)

เช่น

if you see him, tell him to visit me.

ถ้าคุณพบเขา บอกให้เขาไปเยี่ยมผมบ้าง

Don’t smoke a cigarette if you are sick.

อย่าสูบบุหรี่ ถ้าคุณไม่สบาย

if he comes, don’t let him get it.

ถ้าเขามา อย่าให้เขาเข้าไปข้างใน

if she goes there, please take her to have sight-seeing many things interesting.

ถ้าหล่อนไปที่นั่น กรุณาพาเธอเที่ยวชมสิ่งที่น่าสนใจหลายๆอย่างด้วย

อนึ่งกริยาซึ่งเป็นผลของเงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นในอนาคต (Future) นั้น นอกจากจะใช้ will, shall แล้ว เรายังสามารถใช้กริยาตัวอื่นซึ่งเทียบเท่า will, shall ได้อีกคือ can, may, must, should (ควรจะ), have to, ought to เช่น

if-Present + Future (ที่เทียบเท่ากันได้)

เช่น

If you go out tonight, you
Must
Put a coat on.
If you go out tonight, you
Ought to
Put a coat on.
If you go out tonight, you
Should
Put a coat on.
If you go out tonight, you
 Have to
Put a coat on.

ถ้าคุณออกไปคืนนี้ คุณจะต้อง (ควรจะ, ฯลฯ) ใส่เสื้อคลุม

if he comes, I can speak to him

ถ้าเขามา ผมสามารถพูดกับเขาได้อยู่หรอก

(กริยาใน 2 ประโยคนี้ มีลักษณะเป็น Future ใช้แทน will, shall ได้ถือว่าไม่ผิดกฎ)