เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Past Perfect Tense

Past Perfect Tense มีวิธีใช้ดังนี้

รูปแบบประโยค คือ ประธาน + had + กริยาช่อง 3

เช่น

He had gone.

They had gone.

I had worked.

Bill had studied.

She had spoken.

The boys had won.

ถาม : Past Perfect Tense ใช้เมื่อใด

ตอบ : Past Perfect Tense มีวิธีใช้ดังนี้

1)ใช้กับเหตุการณ์ 2 อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต และก็สิ้นสุดลงไปแล้วในอดีตโน้น โดยเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งมีหลักการแต่งดังนี้

– เหตุการณ์ใดเกิดก่อนใช้ Past Perfect Tense
(S. + had + Verb. 3)


– เหตุการณ์ใดเกิดทีหลังใช้ Past Simple Tense.
(s. + Verb 2)

โจทย์ : We (go) out for a walk after we (eat) dinner.

เฉลย : We went out for a walk after we had eaten dinner.

เราออกไปเดินเล่นหลังจากที่เราได้ทานอาหารค่ำแล้ว

(ทานอาหารค่ำเป็นเหตุการณ์ที่ทำก่อน ใช้ Past Perfect Tense และเมื่อทานเสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่น ดังนั้นประโยคออกไปเดินเล่นทำทีหลังจึงใช้ Past Simple Tense)

โจทย์ : Anong (learn) English before she (go0 to England.

เฉลย : Anong ha learnt English before she went to England.

อนงค์ได้เรียนภาษาอังกฤษ แล้ว ก่อนที่เธอจะไปประเทศอังกฤษ

(การเรียนทำก่อนใช้ Past Perfect การไปทำทีหลังใช้ Past Simple)

โจทย์ : When we (reach) the field, the football match (begin).

เฉลย : When we reached the field, the football match had begun.

เมื่อเราไปถึงสนาม การแข่งขันฟุตบอลได้เริ่มขึ้นแล้ว

(ไปถึงทำทีหลังใช้ Past Simple การแข่งขันฟุตบอลเขาได้เริ่มมาก่อนที่เราจะไปถึงแล้ว ฉะนั้นจึงใช้ Past Perfect Tense)

When I called on Suni, her mother told me thai she had left home.

เมื่อผมไปเยี่ยมสุนี แม่ของเธอบอกผมว่า เธอได้ออกจากบ้านไปแล้ว

(ออกจากบ้านเกิดก่อนใช้ Past Perfect Tense เสมอ และมักเชื่อมประโยคด้วย after,

ข้อสังเกต : Past Perfect Tense ใช้ควบกับ Past Simple Tense เสมอ และมักเชื่อมประโยคด้วย after, before ,when, that ตามตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว

2)ใช้กับคำว่า By the time, By May, By 1980 ซึ่งมีความหมายว่า “นับเวลามาจนสิ้น, นับเวลามาก่อนหน้านี้,” มีโครงสร้างประโยคดังนี้

By the time + Past Simple, Past Perfect Tense

เช่น

By the time the sun set, we had left the office.

ก่อนหน้าที่พระอาทิตย์ตกดิน เราได้ออกจากที่ทำงานไปแล้ว

By 1980 kim had been a policeman for thirty years.

นับเวลาจนสิ้นปี 1980 คิมได้เป็นตำรวจมาแล้วเป็นเวลา 30 ปี

By May he had worked here for two years.

นับถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมเขาได้ทำงานอยู่ที่นี่เป็นเวลา 2 ปี

หมายเหตุ : หลัง by ถ้าระบุเวลาที่เป็นอดีตแน่นอน จะใช้เฉพาะ Past Perfect Tense ประโยคเดียวก็ได้ดั่งตัวอย่าง 2 ประโยคหลัง

3)ใช้ Past Perfect Tense ควบกับ Past Simple Tense ในสำนวนต่อไปนี้
no sooner…………….than

hardly…………………..when

scarcely……………………..when

ซึ่งมีโครงสร้างประโยคดังนี้

Subject + had + (no sooner, hardly, scarcely) + Verb 3 (than, when, when,) subject + verb 2

เช่น

They had no sooner finished their work than they went out.

พอทำงานเสร็จพวกเขาก็ออกไปข้างนอก

He had no sooner seen the policeman than he ran away.

พอเห็นตำรวจเขาก็วิ่งหนี

Chid had hardly gone anywhere when his mother was ill.

ชิดแทบจะไม่ได้ไปไหนเลยเมื่อตอนแม่ของเขาไม่สบาย

I had scarcely had free time when I lived with my uncle.

ผมแทบจะหาเวลาว่างไม่ได้เลย เมื่อตอนอยู่กับลุงของผม

4)ใช้ Past Perfect Tense ใน Clause (ประโยค) ที่ตามหลัง I wish ซึ่งเป็นประโยคแสดงความปรารถนาในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความเป็นจริง ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต เช่น

ความจริงที่เป็นอยู่ : I was born in a poor family.

ผมเกิดในครอบครัวที่ยากจน

ปรารถนาใหม่ : I wish I had been born in a rich family.

ผมอยากให้ผมได้เกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย