เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Future Simple Tense

Future Simple Tense มีวิธีใช้ดังนี้

รูปแบบประโยค คือ ประธาน + will, shall + กริยาช่อง 1

ท่องจำ : Shall ใช้กับบุรุษที่ 1 คือ I, we

Will ใช้กับบุรุษที่ 2-3 และคำนาม ได้แก่ You, he, she, it, they, Mary, etc.

เช่น :

I shall go.

You will go.

We shall go.

He will go.

They will go.

Mary will go.

หมายเหตุ : กริยาที่ตามหลัง will, shall ไม่ต้องเติม s ไม่ว่าประธานจะเป็นบุรุษและพจน์ใดก็ตาม

ถาม : Future Simple Tense ใช้เมื่อใด

ตอบ : Future Simple Tense มีวิธีใช้ดังนี้

1)ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งขณะที่พูดนี้เหตุการณ์หรือการกระทำนั้นยังไม่ทันเกิดขึ้น และมักจะมีคำวิเศษณ์บอกเวลาที่เป็นอนาคตมาร่วมเสมอได้แก่

Soon, shortly, in a short time, in a moment, in a while, in a week’s time, in two days’ time, in (the) future, in a few minutes (weeks, months, years), tonight, tomorrow, next week, next month, next year, next Monday (Tuesday, Wednesday, etc.)

เช่น

I Shall go to the United States soon.

ผมจะไปสหรัฐเร็วๆนี้ (ขณะพูดยังไม่ทันไป)

Thomson will leave Thailand for Japan next week.

ทอมสันจะออกจากประเทศไทยไปญี่ปุ่นอาทิตย์หน้า

(ขณะพูดยังไม่ไป อาทิตย์หน้าจึงจะไป)

The plane will arrive at the airport in a few minutes.

เครื่องบินจะมาถึงท่าอากาศยานในเวลาอีกไม่กี่นาทีแล้ว

(ขณะพูดยังมาไม่ถึง แต่อีก 2-3 นาที จึงจะถึง)

We shall travel round the world tomorrow.

พวกเราจะไปเที่ยวรอบโลกวันพรุ่งนี้

(ขณะพูดยังไม่ไป วันพรุ่งนี้ไป)

2)ประโยคแสดงอนาคตที่มีกริยา 2 ตัว ให้ใช้ Future Simple Tense กับกริยาเพียงตัวเดียว ส่วนอีกตัวหนึ่ง (คือประโยคที่อยู่หลังคำเชื่อม) ให้ใช้ Present Simple หรือ Present Perfect Tense กริยาที่ใช้ Future Simple Tense คือ กริยาที่อยู่หน้าคำเชื่อม และคำเชื่อมที่นำมาใช้ เท่าที่พบมากได้แก่ if, unless, when, until, as soon as, before, after, the moment that, by the time that , now that

เช่น

They will leave after they have finished their work.

พวกเขาจะไปหลังจากที่ได้ทำงานเสร็จแล้ว

She will stay here until her father arrives from his office.

หล่อนจะพักอยู่ที่นี่จนกว่าพ่อของเธอจะกลับมาจากที่ทำงาน

I shall go if you ask.

ผมจะไปถ้าคุณขอร้อง

He will return home as soon as he has received a letter.

เขาจะกลับบ้านทันทีที่เขาได้รับจดหมาย

Now that you have won the lottery, what will you do?

ถ้าคุณถูกล็อตเตอรี่ คุณจะทำอะไรบ้าง

การใช้ (be) going to แทน will, shall

ถาม : เราจะใช้ (be) be going to แทน will, shall ได้ในกรณีไหนบ้าง, และมีข้อยกเว้นไม่ให้ใช้ (be) going to แทน will, shall ในกรณีไหนหรือไม่.. ขอให้บอกมาพร้อมยกตัวอย่าง

ตอบ : เราสามารถใช้ (be) going to + Verb 1 แทน Will และ Shall ได้ ในกรณีต่อไปนี้คือ

1)ใช้ (be) going to + Verb 1 เพื่อแสดงความตั้งใจ (Intention) แทน will, shall ได้ เช่น

I am going to write to Anong this evening.

เย็นวันนี้ผม (ตั้งใจว่า) จะเขียนจะดหมายถึงอนงค์

Sak is going to sell his car next month.

ศักดิ์ (ตั้งใจว่า) จะขายรถยนต์ของเขาเดือนหน้า

We are going to buy a house in Bangkok next year.

พวกเรา (ตั้งใจว่า) จะซื้อบ้านสักหลังไว้ที่กรุงเทพปีหน้า

(ประโยคทั้ง 3 มีความหมายเท่ากับ

I shall write…….

Sak will sell…….

We shall buy…….นั่นเอง)

2) ใช้ (be) going to + Verb 1 เพื่อแสดงการคาดคะเน (Suggestion) แทน Will, Shall ได้
เช่น

I think it is going to rain.

ผมคิดว่า ฝนคงจะตก (อย่างแน่นอน)

I am afraid that the repairs to our house are going to cost a lot of money.

ผมเกรงว่า การซ่อมแซมบ้านของเราคงจะใช้เงินเป็นจำนวนมาก (อย่างแน่นอน)

(ประโยคทั้ง 2 มีความหมายเท่ากับ :
……….It will rain.

…………the repairs…….will cost…………นั่นเอง)

3)ใช้ (be) going to + Verb 1 เพื่อแสดงข้อความซึ่งเชื่อว่า เป็นจริงเช่นนั้นโดย ปราศจากข้อสงสัย (Inevitability) แทน will, shall ได้ เช่น

My wife is going to have a baby.

ภรรยาของผมจะมีลูกแล้ว

(=My wife will have a baby.)

ห้ามใช้ (be) going to แทน will, shall

ดังได้กล่าวมาแล้วเสมอว่า สภาวะธรรมชาติทั่วๆไป เมื่อมีข้อบังคับก็ต้องมีข้อยกเว้น เพราะฉะนั้น (be) going to ก็เช่นเดียวกัน เมื่อใช้แทน will, shall เพื่อแสดงอนาคตกาลได้ นั่นก็มิได้หมายความว่าจะใช้แทนได้ในทุกกรณีเสียไปหมด ยัง…ยังมีข้อยกเว้น ที่ไม่อาจนำเอา (be) going to มาใช้แทน will, shall ได้นั่นคือ

1)เหตุการณ์ที่เป็นอนาคตอันแท้จริง (Pure Futurity) ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่สามารถใช้ (be) going to แทน will, shall ได้ คงใช้เฉพาะ will, shall ตลอดไป
เช่น
“วันนี้เป็นวันที่ 21 พรุ่งนี้เป็นวันที่ 22”

ผิด : Today is the 21 st; tomorrow is going to be the 22 nd.

ถูก : Today is the 21 st; tomorrow will be the 22 nd.

(วันนี้เป็นวันที่ 21 และพรุ่งนี้เป็นวันที่ 22 นั้นถือว่า เป็นอนาคตที่จะต้องเป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง (natural pure futurity) แม้จะตั้งใจ จงใจ สมัครใจ หรือไม่ก็ตาม มันก็เป็นไปโดยธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้น กรณีเช่นนี้ใช้ be going to แทน will, shall ไม่ได้)

“ผมจะมีอายุ 30 ปีหน้า”

ผิด : I am going to be thirty next year.

ถูก : I shall be thirty next year.

(มีอายุ 30 ปีหน้า เป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ใช่โดยตั้งใจของผู้พูด ถือเป็น Pure Futurity ใช้ be going to ไม่ได้)

“เดือนนี้คือเดือนมกราคม เดือนหน้าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์”

ผิด : This month is January ; the next one is going to be February

ถูก : This month is January ; the next one will be February.

(กาลเวลาผ่านไปตามธรรมชาติ เดือนนี้เป็นเดือนมกราคม เดือนต่อไปก็จะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นอนาคตที่ต้องเกิดขึ้นตามธรรมชาติ โดยไม่ต้องตั้งใจของผู้พูดก็เป็นของมันเอง ใช้ be going to ไม่ได้)

2)ห้ามใช้ (be) going to แทน will, shall ในประโยคเงื่อนไขที่เชื่อมด้วย if คงใช้เฉพาะ will, shall อย่างเดียว เช่น

ผิด : I am going to do this for you if you give me twenty baht.

ถูก : I shall (will) do this for you if you give me twenty baht.

ผมจะช่วยทำสิ่งนี้ให้คุณ ถ้าคุณให้เงินผม 20 บาท

3)ห้ามใช้ (be) going to แทน will, shall กับกริยาแสดงการรับรู้ คงใช้เฉพาะ will, shall เท่านั้น (Verb แสดงการรับรู้ได้แก่ know, understand, remember, forget, like, love, etc.)

เช่น

I will understand what you said.

(อย่าใช้ : I am going to understand what you said.

ผมจะต้องเข้าใจสิ่งที่คุณพูด

He will like it if he sees.

(อย่าใช้ : He is going to like it if he sees)

เขาคงจะชอบถ้าเขาเห็น

I will (shall) remember your name for ever.

(อย่าใช้ : I am going to remember your name forever.)

ผมจะจำชื่อของคุณไว้ตลอดไป

การใช้ (be) going to ในประโยคแสดงอดีตกาล

(be) going to ในประโยคแสดงอดีตกาล ได้แก่

(was, were) + going to + Verb 1

นำมาใช้ในรูปอดีตกาล (Past Tense) เพื่อแสดงว่า “การกระทำนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเลย” หมายความว่า ในอดีตที่ผ่านมาตั้งใจจะทำสิ่งนั้นๆ แต่แล้วก็ไม่ได้ทำดังที่ตั้งใจเอาไว้ จะด้วยเหตุอันใดก็แล้วแต่ที่มาขัดขวาง

เช่น

We were going to play tennis yesterday, but it rained.

เรา (ตั้งใจ) จะเล่นเทนนิสเมื่อวานนี้ แต่ฝนได้ตกลงมา

(เราเลยไม่ได้เล่นเทนนิสตามที่ตั้งใจเอาไว้)

I was going to see you last night.

ผม (ตั้งใจ) จะไปพบคุณเมื่อคืนนี้ (แต่ไม่ได้ไปดังที่ตั้งใจเอาไว้)

หมายเหตุ : รูป be going to ส่วนมากนิยมเป็นภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน

การใช้ will, shall สลับบุรุษ

ดังได้กล่าวมาแล้วว่า shall ใช้กับบุรุษที่ 1 คือ

I shall…………………ผมจะ……………….

We shall……………….เราจะ……………

และ will ใช้กับบุรุษที่ 2-3 และนามที่มาเป็นประธาน เช่น

You will……………….คุณจะ……………….

He will………………..เขาจะ…………………

She will………………หล่อนจะ………………..

It will………………….มันจะ…………………..

They will……………..พวกเขาจะ…………..

Jack will……………..แจ็คจะ………………

The boy will………………….เด็กชายจะ…………….

The girl will……………………เด็กหญิงจะ…………….

ที่กล่าวมานี้เป็นการใช้ will และ shall กับบุรุษตามปกติของกฎการใช้ will, shall แต่ถ้าจะใช้สลับบุรุษกันเป็น You shall, He shall, She shall, It shall, They shall, etc. ก็ได้ เพราะนอกจากจะเป็นอนาคตแล้ว ยังอาจมีความหมายว่า

ก. เป็นเชิงให้สัญญา (ผู้พูดเป็นผู้ให้สัญญา) เช่น

if you work harder you shall have a holiday on Saturday.

ถ้าคุณทำงานให้จริงจังกว่านี้ คุณก็จะได้หยุดวันเสาร์

You shall have the money as soon as I get it.

คุ๖จะได้เงินในทันทีที่ผมหามาได

(ทั้ง 2 ประโยคเป็นการใช้ shall สลับบุรุษเพราะหมายถึงการให้คำมั่นสัญญาของผู้พูด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ฟังได้เกิดความมั่นใจว่าไม่เบี้ยว ไม่โกง)

ข. เป็นเชิงบังคับ (ผู้พูดเป็นผู้บังคับบัญชา) เช่น

You must do this or you shall be punished.

คุณต้องทำสิ่งนี้ มิฉะนั้นแล้วจะถูกทำโทษ

(ผู้พูดใช้ shall กับ you เพื่อแสดงความเด็ดขาดในการบังคับบัญชาว่า ถ้าไม่ทำแล้วจะถูกทำโทษ)

ค. เป็นเชิงแสดงความตกลงใจอย่างแน่วแน่ (ของผู้พูด) เช่น

These people want to buy my house, but they shan’t (shall not) have it.

คนเหล่านี้อยากจะซื้อบ้านของผม แต่เขาจะไม่ได้มันหรอก (เพราะผมได้ตกลงใจอย่างแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ขาย)

He shall have thousand bath, if he does this work for me.

เขาจะได้รับเงิน 1,000 บาท ถ้าเขาทำงานนี้ให้ผม

(เพื่อให้เขาได้เกิดความมั่นใจว่า เงินหนึ่งพันบาทต้องเป็นของเขาอย่างแน่นอน ถ้าเขาได้ทำงานนี้ให้ผม ผู้พูดจึงใช้ Shall กับ he)

Will เมื่อใช้กับ I และ We เป็น

I will………………….

จะมีความหมายพิเศษออกไปดังนี้

ก. เป็นการแสดงความตั้งใจจริงของผู้พูด เช่น

I will try again this year.

ผมจะพยายามอีกปีนี้ (หลังจากที่ผมเคยสอบตกมาแล้ว)

I will go there even if I am tired.

ผมจะไปที่นั่นให้ได้ แม้ว่าผมจะเหนื่อย (สักปานใดก็ตา)

ข. เป็นการให้สัญญาของผู้พูด เช่น

I won’t forget Ladda’s birthday. I will send her a present.

ผมจะไม่ลืมวันเกิดของคุณลัดดา ผมจะส่งของขวัญไปให้หล่อน

I will marry you next year.

ผมจะแต่งงานกับคุณปีหน้า

We will stay here until you return.

พวกเราจะพักอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะกลับมา

(ประโยคทั้ง 3 เป็นการใช้ will ผิดกฎธรรมดา แสดงว่าเป็นการให้คำมั่นสัญญา อันแสดงถึงความจริงใจของผู้พูด)