Education In England

การศึกษาในประเทศอังกฤษ

Susan is talking to Yelly about education in England.

ซูซาน อิซ ทอคคิง ทู เยลหลี อะเบาท เอดจะเคชัน อิน อิงลันด

Susan is English. Yelly comes from overseas.

ซูซาน อิซ อิงลิช เยลหลี คัมซ ฟรอม โอเวอซีส

ซูซานกำลังพูดคุยอยู่กับเยลหลีเรื่องการศึกษาในประเทศอังกฤษ ซูซานเป็น

ชาวอังกฤษ ส่วนเยลหลีมาจากต่างประเทศ

Susan : And you know of course that in Britain all children have to

แอนด ยู โน ออฟ คอส แธท อิน บริทเทิน ออล ชิลเดรน แฮฟว ทู

go to school from the age of five to fifteen. it’s the law.

โก ทู สคูล ฟรอม ธิ เอจ ออฟ ไฟฟ ทู ฟิฟทีน อีทส เธอะ ลอ

แน่นอนเลยคุณก็รู้ว่าที่อังกฤษเด็กทุกคนต้องเข้าเรียนตอนอายุ 5 ปี ถึง 15 ปี มันเป็นข้อกฎหมาย

Yelly : Yes I believe the school-leaving age will be raised to sixteen very soon. won’t it?

เยลหลี : เยส ไอ บิลิฟว เธอะ สคูล ลีฟวิง เอจ วิล บี เรสท ทู ซิกซทีน เวรี ซูน โวนท อิท

ใช่แล้ว ฉันเชื่อว่าช่วงอายุที่เด็กจะต้องจบการศึกษาจะถูกเพิ่มเป็น 16 ปีในไม่ช้านี้ มิใช่หรือ

Susan : Well, we hope it will. But it’s all a matter of finance. You

ซูซาน : เวล วี โฮพ อิท วิล บัท อิทส ออล อะ แมทเทอะ ออฟ ไฟแนนซ ยู

see, education here is not only compulsory but free for
ซี เอดจะเคชัน เฮีย อิซ นอท โอนลี คัมพัลซะรี บัท ฟรี ฟอ

everyone. It costs the government millions of pounds

เอฟวรีวัน อิท คอสทส เธอะ กัฟเวินเมินท มิลเยินซ ออฟ เพานด

a year to educate the young.

อะ เยียร์ ทู เอดจะเคท เธอะ ยัง

คือ…พวกเราหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่มันเป็นเรื่องของการเงินล้วนๆ

คุณคงเห็นนะว่าการศึกษาที่นี่ไม่เพียงแต่ เป็นภาคบังคับเท่านั้นแต่ยังฟรีสำหรับทุกคน รัฐบาลจะเป็นผู้เสียเงินค่าใช้จ่ายหลายล้านปอนด์ต่อปี เพื่อให้การศึกาต่อเด็กๆ

Yelly : Do all parents send their children to State schools?

เยลหลี : ดู ออล แพเรินทส เซนด แธร ชิลเดรน ทู สเทท สคูลซ

ผู้ปกครองทั้งหมดได้ส่งลูกของพวกเขาไปยังโรงเรียนรัฐใช่ไหม

Susan : Nearly all of them, yes. If you’re very well off you may

ซูซาน : เนียลี ออล ออฟ เธม ดู เยส อิฟ ยัว เวรี เวล ออฟ ยู เม

Prefer to send your children to an independent school.

ฟรีเฟอ ทู เซนด ยัว ชิลเดรน ทู แอน อินดิเพนเดินท สคูล

But the fees are high and not many parents can afford

บัท เธอะ ฟีส อา ไฮ แอนด นอท เมนี แพเรินทส แคน อะฟอด

them. Besides, most State schools are very good indeed.

เธม บิไซดซ โมสท สเทท สคูลซ อา เวรี กุด อินดีด

ใช่แล้ว เกือบทั้งหมดเลยที่ทำอย่างนั้น ถ้าคุณมีเงินมากพอคุณอาจจะอยากส่งลูกของคุณไปโรงเรียนเอกชน แต่ค่าเล่าเรียนแพงและมีพ่อแม่ไม่มากนักสามารถหาเงินได้ นอกจากนั้น โรงเรียนรัฐส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนที่ดีมากทีเดียว

ภาษาอังกฤษ น่ารู้

Interrogative sentence คือ ประโยคคำถาม สำหรับประโยคคำถามนั้นขึ้นต้นด้วยอักษรตัวใหญ่ ลงท้ายด้วยเครื่องหมายคำถาม ?

Yes / No Question ตอบรับ / ปฏิเสธ

Auxiliary + Subject + Verb +++?

ถ้าในประโยคบอกเล่ามีกริยาช่วย ให้นำกริยาช่วยนั้นวางหน้าประธาน

Can you go with me? คุณไปกับฉันได้ไหม

แคน ยู โก วิธ มี

Will Jumjim go to Sydney next month? จุ้มจิ้มไปซิดนีย์เดือนหน้าใช่ไหม

วิล จุ้มจิ้ม โก ทู ซิดนีย์ เนกซ มันธ

ถ้าประโยคบอกเล่ามีกริยาที่เป็น Verb to be หรือ Verb to have ให้นำกริยานั้นไปไว้ข้างหน้าประธาน

เช่น

Is he a soldier? เขาเป็นทหารใช่ไหม

อิซ ฮี อะโซลเจอะ

Are you O.K., Annie? คุณสบายดีไหม แอนนี่

อา ยู โอ เค แอนนี่

Have you got a cold? คุณเป็นไข้หวัดใช่ไหม

แฮฟว ยู กอท อะ โคลด

Has she read this book yet? เธออ่านหนังสือเล่มนี้หรือยัง?

แฮซ ชี เรด ธีส บุค เยท

หากประธานบอกเล่ามีแต่กริยาแท้ ไม่มีกริยาช่วย Verb to be หรือ Verb to have ดังที่กล่าวมาแล้ว เราจะใช้ Verb to do เข้ามาช่วย คือ

1. ถ้าประธานเป็นคำนามเอกพจน์หรือเป็นสรรพนามเอกพจน์บุรุษที่ 3 (he, she, it) ให้ใช้ does นำหน้าปราน ส่วนกริยาเป็น Verb ช่อง 1

Does she want to be a weight lifter? เธออยากเป็นนักยกน้ำหนักใช่ไหม

ดัช ชี วอนท ทู บี อะ เวท ลิฟเฑอะ

2. ถ้าประธานเป็นคำนามพหูพจนืหรือเป็นสรรพนามบุรุษที่ 1 หรือ 2 ไม่ว่าจะเป็นเอกพจน์ หรือพหูพจน์ หรือพหูพจน์บุรุษที่ 3 ให้ใช้ do นำหน้า
เช่น
Do they buy a new car?
ดู เธ บาย อะ นิว คา
พวกเขาซื้อรถคันใหม่ใช่ไหม