คำที่ใช้เสมอ Wish Form

ถาม : นอกจาก Wish Form แล้วยังมีคำอื่นอีกหรือไม่ ที่ทำให้กริยาที่ตามหลังต้องใช้ Subjunctive ในรูปต่างๆ ขอให้บอกมาด้วย

ตอบ : มี ได้แก่คำต่อไปนี้คือ

as if ราวกับว่า, ประหนึ่งว่า

as though ราวกับว่า, ประหนึ่งว่า

if only ถ้าหากว่า, ถ้าเพียงว่า

ซึ่งแต่ละตัวมีวิธีใช้ดังนี้

as if และ as though เป็น conjunction ใช้เชื่อม 2 ประโยค แต่ใช้ Subjunctive (หรือ Tense) ต่างกันคือ

ก. ถ้าหน้า as if, as though เป็น Present Simple หลัง as if, as though ต้องเป็น Past Simple เช่น

He talks as if (as though)he were a doctor.

เขาพูดราวกับว่าเขาเป็นหมอ (ความจริงคือเขาไม่ได้เป็นหมอ)

หมายเหตุ : Verb to be ใช้ were กับทุกบุรุษ

She acts as if (as though) she knew it well.

หล่อนทำราวกับว่า หล่อนรู้จักมันดี

(แต่ความจริงแล้วหล่อนไม่รู้จักหรอก)

ข. ถ้าหน้า as if, as thought เป็น Past Simple หลัง as if, as though ต้องเป็น Past Perfect เช่น

He talked as if (as though) it had rained very hard yesterday.

เขาพูดราวกับว่าเมื่อวานนี้ฝนตกหนัก (แต่ความจริงฝนตกไม่หนัก)

if only มีวิธีใช้ดังนี้

ก)ถ้าประโยค if only เป็น Past Simple ประโยคหลัง if only ต้องเป็น Future Simple in the Past เช่น

if only her were more careful, he would pass his exam.

ถ้าเขาใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้ เขาก็จะสอบได้อยู่

(ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ เขาสอบตก เพราะขาดความระมัดระวัง)

if only I were here, I should meet her.

ถ้าผมอยู่ที่นี่ ผมก็คงจะได้พบเธอ (แต่ผมไม่อยู่ จึงไม่ได้พบเธอ)

ข) ถ้าประโยค if only เป็น Past Perfect ประโยคที่ตามหลัง if only ต้องเป็น Future Perfect in the Past เช่น

if only Daeng hadn’t gone there, he wouldn’t have been killed.

ถ้าแดงไม่ได้ไปที่นั่น เขาก็คงจะไม่ถูกฆ่า

(ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ แดงไปที่นั่น และเขาก็ถูกฆ่าตาย)

He would have been made the president if only he had been a qualified man.

ถ้าเขาเป็นคนมีคุณสมบัติพร้อมก็คงได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานไปแล้ว (แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือเขาไม่ได้รับแต่งตั้ง เพราะขาดคุณสมบัติ)