เรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง หน้าที่ของ Verb to have

ถาม : Verb to have ใช้ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นได้อย่างไรบ้าง?

ตอบ : Verb to have ใช้ทำหน้าที่ช่วยกริยาตัวอื่นได้ดังต่อไปนี้

1) เรียงไว้หน้ากริยาช่อง 3 (Past Participle) ทำให้ประโยคนั้นเป็น Perfect Tense (สมบูรณ์กาล) ขึ้นมาทันที เช่น

Robert has lived in Thailand for three years

โรเบิร์ทได้มาอยู่ประเทศไทยเป็นเวลา 3 ปีแล้ว

We have learnt English since last month.
เราได้เรียนภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา

2) ใช้โดยมีกริยาสภาวมาลา (Infinitive) ตามหลัง มีสำเนียงแปลว่า “ต้อง” แสดงถึงพันธะหน้าที่หรือความจำเป็นที่ต้องกระทำ เช่น

He has to study English next month.

เขาจะต้องเรียนภาษาอังกฤษเดือนหน้า

I have to do it by myself.

ผมจะต้องทำมันด้วยตัวเอง

3) ใช้ให้เกิดความหมายเท่ากับเหตุกัตตาประโยค (Causative Use of “Have”) คือ ประโยคที่ใช้ให้ผู้อื่นทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ กรณีนี้แยกออกได้เป็น 2 Structure คือ

3.1 ถ้าเน้นตัวผู้ที่ทำ เราจะใช้รูปประโยคว่า…

Have + Someone (ผู้ทำให้) + Verb 1 (Without “to”) + Something

เช่น I have Surachai wash my car every Sunday.

ผมให้คุณสุรชัยล้างรถของผมทุกๆ วันอาทิตย์

She has her daughter clean a room every morning.

หล่อนให้ลูกสาวของหล่อนทำความสะอาดห้องทุกๆเช้า

อนึ่ง have ใช้ get แทนก็ได้ แต่ Non-Finite Verb ที่ตามหลังต้องเป็น With “to” คือมี to นำหน้าได้ว่าอย่างงั้นเถอะ เช่น

I got Det to bring my car back.
(= I had Det bring my car back.)

The teacher gets me to read a book every day.)

(= The teacher has me read a book every day.)

ผมให้เดชนำเอารถยนต์ของผมมาคืน

คุณครูให้ผมอ่านหนังสือทุกวัน

3.2 ถ้าเน้นสิ่งของที่ถูกทำ (Passive) เราจะใช้รูปประโยคว่า…

Have + Something (สิ่งที่ถูกทำ) + Verb ช่อง 3

เช่น I have my car washed every Saturday.
ผมให้เขาล้างรถยนต์ของผมทุกๆ วันเสาร์

He has his gun cleaned.

เขาให้ผู้อื่นทำความสะอาดปืนให้

หรือจะใช้ get แทน have ก็ได้ เช่น

I got my bicycle washed.

ผมให้ผู้อื่นล้างรถจักรยานของผมให้

4) Verb to have นอกจากจะใช้เป็นกริยาพิเศษหรือกริยาช่วยแล้ว ยังสามารถนำมาใช้อย่างกริยาหลัก (Principal Verb) ทั่วๆไปด้วย ในกรณีนี้ทำให้ have (has, had) มีความหมายแปลได้หลายอย่าง เช่น

4.1 แปลว่า “รับ” (Receive) เช่น

He had a letter this morning.

เขาได้รับจดหมายฉบับหนึ่งเมื่อเช้านี้

(Had เท่ากับ receive)

4.2 แปลว่า “ประสบ” (Experience) เช่น :

John had a good time at Bangsaen last week.
จอห์นสนุกสนานที่บางแสนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

(Had เท่ากับ experience)

4.3 แปลว่า “รับประทาน” (eat) เช่น

We have our lunch at noon.

พวกเรารับประทานอาหารกลางวันของเราเวลาเที่ยง

(have เท่ากับ eat)

การใช้ Verb to have ตามความหมายทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมานี้ หากทำเป็นประโยคปฏิเสธ (Negative) และประโยคคำถาม (Interrogative) ต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วย จะใช้ not เติมหลัง have หรือนำเอา have ขึ้นไปไว้ต้นประโยคดังเช่น กริยาพิเศษ (Anomalous Verb) ตัวอื่นหาได้ไม่ เช่น

Affermative
(ประโยคบอกเล่า
Negative
(ประโยคปฏิเสธ)
Interrogative
(ประโยคคำถาม)
He has his breakfast at seven.
เขาทานอาหารเช้าของเขาเวลา
7 นาฬิกา
They had a letter yesterday.
พวกเขาได้รับจดหมายเมื่อวานนี้
He doesn’t have his breakfast at
seven.
เขาไม่ได้ทานอาหารเช้าของเขาเวลา
7 นาฬิกา
They didn’t have a letter yesterday.
พวกเขาไม่ได้รับจดหมายเมื่อวานนี้
Does he have his breakfast at seven?
เขาทานอาหารเช้าของเขาเวลา
7 นาฬิกาหรือ?
Did they have a letter yesterday?
พวกเขาได้รับจดหมายหรือเมื่อวานนี้?

4.4 แปลว่า “มี” (Possess) เช่น

She has a sister. เธอมีน้องสาวคนหนึ่ง

(has เท่ากับ Possess)

Daeng has many friends in Korat.

แดงมีเพื่อนมากที่โคราช

(has และ have เท่ากับ possess)

Verb to have ที่นำมาใช้ในความหมายที่แปลว่า “มี” (Possess) ตามกฎข้อที่ 4 นี้ เมื่อทำเป็นประโยคปฏิเสธและประโยคคำถามระหว่างการใช้แบบอังกฤษ (British Usage) กับแบบอเมริกัน (American Usage) ย่อมไม่เหมือนกัน กล่าวคือ แบบอังกฤษถ้า have แปลว่ามี (Possess) เมื่อทำเป็นปฏิเสธให้เติม not หลัง have ได้ ถ้าเป็นคำถามให้เอา have ขึ้นวางไว้ต้นประโยคได้ แต่แบบอเมริกัน เมื่อทำเป็นคำถามหรือปฏิเสธต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วยทุกครั้ง จะใช้ have ขึ้นต้นประโยคเมื่อต้องการให้เป็นคำถาม หรือ เติม not หลัง have เมื่อต้องการให้เป็นปฏิเสธหาได้ไม่ ขอให้นักศึกษาดูตารางนี้เอาเองเถอะครับ แล้วจะเข้าใจได้ดีขึ้น

Affirmative
Negative
Interrogative
British Usage
He has a pen.
He has not a pen.
Has he a pen?
American Usage
He has a pen.
He doesn’t have a pen.
Does he have a pen?

) Verb to have เมื่อมีคำกริยาบางคำมาตามหลัง จะทำให้กริยาตัวนั้นกลายเป็นคำนามขึ้นมา และคำกริยาบางคำที่ตามหลัง have ดังกล่าวมานี้ จะใช้โดยมี Article “a” นำหน้าตลอดไป ส่วนคำแปลของ have ตามกฎการใช้แบบข้อที่ 5 นี้ ย่อมขึ้นอยู่กับความหมายของคำที่ตามหลัง ไม่มีจำกัดแน่นอนตายตัว เช่น

Have a rest พักผ่อน

Have a walk เดินเล่น

Have a swim ว่ายน้ำ

Have a ride ขี่

Have a sleep นอนหลับ

Have a drink ดื่ม

Etc. เช่น

We had a swim in the pool yesterday.

เราได้ว่ายน้ำในสระนั้นเมื่อวานนี้

She wants to have a drink with you.

หล่อนต้องการดื่มกับคุณ

Does your grandfather have a walk every morning?

ปู่ของคุณออกเดินทุกๆเช้าหรือ?

6) เมื่อ Verb to have นำมาใช้เพื่อแสดงลักษณะและความสัมพันธ์ของสิ่งของนั้นๆ จะใช้ Verb to be แทนก็ได้ เช่น

This house has six windows.

บ้านหลังนี้มีหน้าต่าง 6 บาน

= There are six windows in this house.
มีหน้าต่าง 6 บานในบ้านหลังนี้

My room has three tables.

ห้องของผมมีโต๊ะ 3 ตัว

=There are three tables in my room.

มีโต๊ะอยู่ 3 ตัวในห้องของผม