Past Participle

Past Participle คืออะไร ใช้ทำหน้าที่เป็นอะไรได้บ้าง

Past Participle ได้แก่ “กริยาช่องที่ 3 นั่นเอง ซึ่งอาจจะมีรูปมาโดยการเติม ed (Regular Verb) บ้าง เช่น opened, walked, worked, closed, stopped, etc. หรือมีรูปมาโดยการผัน (Irregular verb) บ้าง เช่น gone, seen, eaten, drunken, come, etc.” เรียกคำที่กล่าวมานี้ว่าเป็น Past Participle มีวิธีใช้ดังต่อไปนี้

1)เรียงไว้หลัง Verb to have ทำให้ประโยคนั้นเป็น Perfect Tense (สมบูรณ์กาล) ขึ้นมาทันที เช่น

We have lived here for five years.

เราได้มาอยู่ที่นี่เป็นเวลา 5 ปีแล้ว

She has never met me.

หล่อนยังไม่เคยพบผมเลย

The guests have gone back already.

แขกเหรื่อได้กลับไปหมดแล้ว

(lived, met, และ gone เป็น Past Participle เรียงตามหลัง Verb to have จึงทำให้ประโยคเหล่านี้เป็น Perfect Tense)

2)เรียงตามหลัง Verb to be ทำให้ประโยคนั้น เป็นกรรมวาจก (Passive Voice)

เช่น

I am called. ผมถูกเรียกตัว

He was punished by the teacher.

เขาถูกทำโทษโดยครู

The house was built in 1970.

บ้านได้สร้างไว้ในปี 1970

Someone has been injured.

มีบางคนได้รับบาดเจ็บ

(called, punished, built, และ injured เป็น Past Participle มาเรียงตาม Verb to be จึงทำให้ประโยคเหล่านี้เป็น Passive Voice)

3)ใช้ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ประกอบหน้านามได้ เช่น

The used car is not dear.

รถที่ใช้แล้วราคาไม่แพง

The stolen buffalo has been found.

ควายที่ถูกขโมยไปได้พบแล้ว

The fallen leaves were burned.

ใบไม้หล่นถูกเผาไปแล้ว

(used, stolen และ fallen เป็น Past Participle มาทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ขยายนามที่อยู่ข้างหลัง)

4)ใช้เป็นส่วนประกอบของคำประสม (Compound Adjective) แล้วนำไปประกอบหน้านามตัวอื่น (=Adverb + Past Participle + Noun) เช่น

A well-dressed woman
ผู้หญิงที่แต่งตัวได้สวยงาม
A badly-built house
บ้านที่สร้างไว้ไม่ดี
A well-behaved boy
เด็กที่มีความประพฤติดี
A frequently-used word
คำที่ใช้บ่อย
A well-finished job
งานที่สำเร็จลงด้วยดี


5)Past Participle บางตัวอาจมีรูปมาจากคำนาม (Compound Noun) แล้วนำมาใช้เป็นคุณศัพท์ผสม ขยายนามตัวอื่นได้ เช่น

โครงสร้าง : Adjective + Noun เติม ed + Noun

A blue-eyed baby
เด็กมีนัยน์ตาสีฟ้า
A long-legged man
คนขายาว
A good-Tempered boss
เจ้านายที่มีอารมณ์ดี
A brown-haired girl
เด็กหญิงมีผมสีน้ำตาล

เช่น

A brown-haired girl is my sister.

เด็กหญิงมีผมสีน้ำตาลเป็นน้องสาวของผม

She doesn’t like a bad-tempered master.

หล่อนไม่ชอบนายที่มีอารมณ์ร้าย

(คำที่เติม ed เป็น Past Participle (ไม่แท้) นำมาใช้เป็นคุณศัพท์ประกอบหน้านามตัวอื่นได้)

6)ใช้เรียงไว้หลังนามก็ได้ แต่ต้องมีบุรพบทวลีมาขยายร่วมด้วยเสมอ เช่น

The boy bitten by a mad dog was sent to hospital.

เด็กที่ถูกสุนัขบ้ากัดได้นำส่งโรงพยาบาล

This is a radio made in Japan.

นี่คือวิทยุที่ทำในญี่ปุ่น

The pupil punished by the teacher is very lazy.

นักเรียนที่ถูกครูทำโทษนั้นเป็นคนขี้เกียจมาก

(bitten, made และ punished เป็น Past Participle เป็น Past Participle นำมาใช้ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ตามหลังนาม)

7)Past Participle ใช้วางไว้ต้นประโยคเลยก็ได้ แต่ต้องใช้กับกลุ่มคำบุรพบทวลีเสมอ เช่น

Punished by his teacher, he came to school early.

เพราะถูกครูทำทา เขาจึงมาโรงเรียนแต่เช้า

Blamed by their parents, the children tried to behave better.

เนื่องจากถูกบิดามารดาตำหนิ พวกลูกๆ จึงพยายามที่จะทำตัวให้ดีขึ้น

(Punished, blamed เป็น Past Participle นำมาวางไว้ต้นประโยคได้ เพราะมีกลุ่มคำบุรพบทมาร่วม)

แม้ไปพบเห็นในที่อื่น ก็ขอให้จดจำไว้และเทียบเคียงตามที่กล่าวมานี้ครับ)