2. ผันรูป Continuous
    อันนี้ชื่อก็บอกอยู่อีกเช่นกันว่า นำไปใช้กับรูปประโยคแบบ Continuous และการทำกริยาห้เป็นนาม (อาการนาม) หรือ ที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Gerund แต่ตอนนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกับการผันกริยาในรูปแบบนี้เลยนะครับ
การผัน Verb -ing
    โดยทั่วไปจะเติม ing ได้ทันทีเลยครับ แต่ในบางกรณีก็จะมีที่นอกกฏบางเหมือนกัน ดังนี้ครับ
1. เติม ing ท้ายกริยาช่องที่ 1 ได้ทันทีสำหรับคำกริยาโดยทั่วๆไป เช่น
    walk  –> walking   เดิน
    teach  –> teaching  สอน
2. เป็นคำพยางค์เดียว ออกเสียงสั้น หน้าพยัญชนะท้ายมีสระ 1 ตัว ให้ใส่พยัญชนะท้ายเพิ่มกไปอีกหนึ่งตัวแล้วเติม ing
    swim  –>  swimming  ว่ายน้ำ
    cut  –>  cutting  ตัด

3. คำ 2 พยางค์ ซึ่งลงท้ายหนัก ที่พยางค์ท้าย มีสระที่พยางค์ท้ายเพียงตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวเดียว ต้องเพิ่มพยัญชนะตัวท้ายนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วจึงเติม ing เช่น
    begin  –>  beginning  เริ่ม
    forget  –>  forgetting  ลืม
    แต่มีข้อยกเว้นนะครับว่า ถ้าลงเสียงหนักพยางค์แรก ไม่ต้องเพิ่มพยัญชนะตัวท้ายอีก เช่น
    cover –> covering  ปกคลุม
4. คำกริยา 2 พยางค์ต่อไปนี้ จะเพิ่มตัวสะกดเข้ามาแล้วเติม ing (แบบอังกฤษ) หรือจะไม่เพิ่มตัวสะกดแต่เดิม ing เลย (แบบอเมริกัน) ก็ได้ เช่น
    แบบอังกฤษ : control –>  controlling  ควบคุม
    แบบอเมริกัน : control –> controlling  ควบคุม
5. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย e (กรณีไม่ออกเสียงที่ตัว e) ให้ตัด e ทิ้งแล้วเติม ing เช่น
    live  –>  living  อยู่อาศัย
    stare  –>  staring  จ้อง
6. กริยาที่ลงท้ายด้วย ee ให้เติม ing ได้เลย ไม่ต้องตัดตัวใดทิ้ง เช่น
    free –>  freeing  ปล่อยเป็นอิสระ
    see  –>  seeing  เห็น
7. กริยาที่ลงท้ายด้วย ie ให้เปลี่ยน ie เป็น y แล้วเติม ing เช่น
    die –> dying  ตาย
    tie  –>  tying  ผูก
แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบางคำเช่นกันครับ เช่น
    ski  –>  skiing  เล่นสกี
    dye  –>  dyeing  ย้อมสี
8. คำกริยาที่ลงท้ายด้วย c ให้เติม k ก่อนเติม ing เช่น
    picnic  –>  picnicking  ปิกนิก